Phones





กรุงศรี ส่องกรอบเงินบาท 36.50-37.00 บ. หลังจ้างงานสหรัฐฯลดความร้อนแรง

2024-05-07 20:21:40 429



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – โกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ หลังการจ้างงานสหรัฐฯลดความร้อนแรงลงในเดือนเม.ย. ขณะที่มุมมองตลาดเรื่องการคงดอกเบี้ยสูงยาวนานของเฟดได้ถูกสะท้อนอยู่ในราคาแล้ว
 
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 36.80 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 36.75-37.10 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คงดอกเบี้ยในช่วง 5.25-5.50% ตามคาด โดยเฟดให้ความเห็นว่าการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอาจจะเกิดขึ้นล่าช้ากว่าที่ได้ประเมินไว้เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯลดลงช้า
 
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนขานรับประเด็นที่ว่าประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในวัฎจักรนี้และยืนยันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงในระยะถัดไปบนเงื่อนไขที่ว่าเฟดต้องการความเชื่อมั่นมากกว่านี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในทิศทางขาลง ส่วนเงินเยนพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 34 ปี ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,170 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 7,145 ล้านบาท
 
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ โกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า หลังการจ้างงานสหรัฐฯลดความร้อนแรงลงในเดือนเม.ย. อีกทั้งมุมมองตลาดเรื่องการคงดอกเบี้ยสูงยาวนานของเฟดได้ถูกสะท้อนอยู่ในราคาพอสมควรแล้ว นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยว่าจะชะลอการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening) ตั้งแต่เดือนมิ.ย. เป็นต้นไป โดยเฟดจะปล่อยให้ขนาดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯลดลง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เทียบกับอัตรา 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในปัจจุบัน แต่เฟดจะยังคงปล่อยให้การถือครองหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (Mortgage-backed Securities) ลดลง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนตามเดิม ซึ่งมองว่าบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่สดใสขึ้นอาจทำให้เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายทำกำไรในระยะนี้
 
ในส่วนของปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกเดือนมี.ค. ลดลง 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวครั้งแรกรอบ 8 เดือน ทางด้านธปท.เห็นว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2567 ยังเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ประเมินไว้ ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ในภาพรวมเรามองว่าจังหวะเวลาการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของกนง.มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น