Phones





SCN กวาดรายได้ Q1 เฉียด 500 ล. ลุยส่งบ.ย่อยเข้าตลาดหุ้น

2024-05-15 16:12:43 200



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SCN ประกาศผลงานไตรมาส 1/67 สดใส คว้ารายได้เพิ่มอีก 467 ล้านบาท โต 23% เตรียมปูทางรับทรัพย์เพิ่ม เร่งความพร้อมดันบริษัทย่อย SAP เข้าตลาดหุ้น คาดเห็นความชัดเจนในครึ่งปีหลัง พร้อมเดินหน้าศึกษาพลังงานบลูไฮโดรเจนเพิ่มเติม หวังหนุนความแข็งแกร่งระยะยาว
 
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา บริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยมาจากการเติบโตต่อเนื่องของทุกกลุ่มธุรกิจ รวมทั้งยังมีไฮไลท์ธุรกิจ 3 เหตุการณ์สำคัญในไตรมาสแรกที่น่าสนใจ อาทิ ในส่วนของธุรกิจ iCNG มียอดขายเติบโต ขนส่งได้สูงสุดกว่า 5,619 ล้านบีทียูต่อวัน
 
ขณะเดียวกัน บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ SAP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยสามารถการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 1/2567 เพิ่มอีก 2 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดของบริษัท เท่ากับ 23 เมกะวัตต์ รวมทั้ง SCN ยังได้รับเงินเต็มจำนวน จากการชนะคดีพิพาทหลุมก๊าซกับ ECO Orient energy (Thailand) หลังศาลฎีกาพิพากษา สั่งชดใช้เป็นมูลค่า 49.6 ล้านบาท
 
ในส่วนของกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 32 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/2566 มีการรับรู้กำไรการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุน SAP จาก “บริษัทร่วม” เป็น “บริษัทย่อย” เป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาท และไตรมาส 1/2567 มีการรับรู้ค่าใช้จ่าย one-time ที่เกิดจาก 1.การออกหุ้นให้พนักงาน, 2.ซื้อคืนงานโครงการ Private PPA ของไตรมาส 1/2567 และ 3.ค่าปรับงานรับเหมาก่อสร้าง จึงทำให้กำไรจากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า
 
“SCN ยังคงทำผลงานที่เติบโตต่อเนื่องได้ตามเป้า ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจขนส่งและอื่นๆ จากการรับรู้รายได้สัญญาจ้างขนส่งจากการชนะประมูลงานขนส่ง ปตท. ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 และการเติบโตของงานรับเหมาก่อสร้าง ในส่วนของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน มีการ COD เพิ่มขึ้น 2 โครงการ และธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ อะไหล่ และรถโดยสารปรับอากาศนั้น ค่าซ่อมบำรุงรถโดยสารที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสัญญาให้บริการ” ดร.ฤทธี กล่าว
 
สำหรับความคืบหน้าของการนำ SAP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย (mai) ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภายในและเตรียมยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ SAP มีพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าบนหลังคาในมือแล้วมากกว่า 36 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 23 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเป็น 30 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตต่อเนื่อง
 
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2567 คาดการณ์ว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจในทุกกลุ่มของบริษัท ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น หลังบริษัทเพิ่มความเข้มข้นของการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านการตลาดกับลูกค้า ตลอดจนการบริหารงานและจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ ทำให้มองภาพรวมตลอดปี 2567 ยังคงตั้งเป้าการเติบโตของไว้ที่ 20% เนื่องจากจะสามารถรับรู้รายได้เต็มของธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ ที่ได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของประเทศในตอนนี้ ช่วงปลายปี นอกจากนี้บริษัทก็ยังเดินหน้าศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่ การผลิตไฮโดรเจน หรือบลูไฮโดรเจน ต่อเนื่อง เพื่อหาโอกาสและความเป็นไปได้ในการลงทุน ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้ SCN ในอนาคต