Phones





SEAFCO ลุ้นรับงานใหม่ครึ่งปีหลัง รับแรงหนุนเบิกจ่ายงบฯ

2024-06-24 17:01:27 96



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SEAFCO เดินหน้าหางานใหม่เข้าพอร์ต หนุนรายได้รวมปีนี้ทำได้ตามเป้าที่ 1.8 พันล้านบาท หวังผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวกว่าครึ่งปีแรกรับแรงส่งจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล คาดเห็นโครงการใหม่เปิดประมูลมากกว่า ด้านโบรกแนะ “ถือ” หุ้น SEAFCO
 
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภาพรวมผลประกอบการของ SEAFCO ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งมองว่ามี Downside จากภาพรวมอุตสาหกรรมยังซบเซาจากความล่าช้าการเบิกจ่ายงบภาครัฐ โดยงานปัจจุบันมาจาก ภาคเอกชนเป็นหลัก อาทิ โรงพยาบาล คอนโดอาคาร ซึ่งขนาดเล็กและการแข่งขันสูง ขณะที่มีงานอยู่ระหว่างประมูลรวม 8.6 พันล้านบาท โดยโครงการประมูลให้น้ำหนักกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งล่าสุดศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดีสุดท้าย จึงคาดว่า BEM จะเซ็นสัญญาได้สิ้นปีนี้ ซึ่ง SEAFCO มีโอกาสสูงได้รับงานฐานรากฐานะพันธมิตรกับ CK
 
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2567 ที่ระดับ 72 ล้านบาท ซึ่งมี Backlog รองรับแล้ว 88% ซึ่งแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากวันหยุดยาว และรถไฟฟ้าม่วงใต้เตรียม ส่งมอบ เดือนก.ค. แม้ครึ่งปีหลังรายได้ฟื้นตัวหลังเริ่มงานใหม่ตั้งแต่ ไตรมาส 3/2567 อาทิ Shark Fin Pathum Wan Intersection, ThePlatinum Square แต่ผลประกอบการยังไม่สดใสเนื่องจากเป็นงานมาร์จิ้นตํ่าลง จึงปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 2.30บาท แนะนําเพียง “ถือ”
 
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2567 เป็นจุดสูงสุดของปีแล้วเชิงพื้นฐาน ต้องรอการฟื้นตัวผลประกอบการในปี 2568 แต่เชิงกลยุทธ์หากมีความคืบหน้างานประมูล อาทิ รถไฟฟ้าสายสีส้มและโครงการในบังกลาเทศ อาจเป็นประเด็นเก็งกําไรหุ้นระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงมาจากความไม่แน่นอนการเมืองกระทบการลงทุนภาครัฐล่าช้า ส่งผลให้ฐานรากซึ่งระยะสั้น 3-6 เดือนจะยากลําบาก
 
ขณะที่ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ระบุว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 2567 คาดว่าจะสามารถทำรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท โดยมองว่าธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากคาดว่าจะเริ่มเห็นการเบิกจ่ายงบประมาณ และการเดินหน้าของโครงการภาครัฐเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีความล่าช้าของร่างงบประมาณปี 2567
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างรอเจรจารับงานโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินในประเทศบังกลาเทศ โดยเป็นโครงการรถไฟฟ้าโครงการแรกของประเทศบังกลาเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก JICA ประเทศญี่ปุ่น โดยมีทั้งสิ้นจำนวน 18 สถานี ซึ่งล่าสุดพันธมิตรของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทของญี่ปุ่นชนะประมูล 1 สถานี และอยู่ระหว่างรอประกาศผลอีก 3 สถานี โดยหากบริษัทได้รับงานดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนการรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีกหลายปีข้างหน้า
 
“เป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมคือการผลักดันให้รายได้ยังเติบโตได้ ถึงแม้บางงานจะมีกำไรไม่มากแต่เราก็จำเป็นต้องรับเข้ามาเพื่อให้บริษัทยังมีรายได้ ซึ่งเราก็มีประกาศรับงานใหม่ๆเข้ามาได้ทุกเดือน ขณะที่ส่วนตัวมองว่าธุรกิจครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะจะเริ่มเห็นการเบิกจ่ายงบประมาณออกมามากขึ้น และจะเป็นการเบิกจ่ายงบประมาณของปี 67 – 68 ต่อเนื่องกันด้วย ซึ่งน่าจะเห็นการผลักดันโครงการรัฐออกมาต่อเนื่อง” ดร.ณรงค์ กล่าว