Phones





อนันดาฯ รับเงินสด 2,540 ล้านบ. ปิดดีลขาย 5 เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์

2024-07-01 10:28:26 44



นิวส์ คอนเน็คท์ - อนันดา รับเงินสด 2,540 ล้านบาท จากการจำหน่ายเงินลงทุนในกิจการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ของบริษัทย่อย จำนวน 5 บริษัท 

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีแผนในการเสริมศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นคงของเงินทุน และ สามารถที่จะดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่วางไว้  

โดยล่าสุดได้มีการจำหน่ายเงินลงทุนในกิจการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ของบริษัทย่อยจำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอเอ็มเอช รัชดา จำกัด บริษัท เอเอ็มเอช สุขุมวิท 8 จำกัด บริษัท เอเอ็มเอช สุขุมวิท 59 จำกัด บริษัท เอเอ็มเอช สาธร จำกัด และบริษัท เอเอ็มเอช พัทยา จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนแต่ละบริษัท ให้แก่ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด (MFADT) คิดเป็นมูลค่า 2,540 ล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนของบริษัทฯ ทั้งนี้ ยังคงมีการลงทุนในธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อย่างต่อเนื่อง

สำหรับการจำหน่ายเงินลงทุนในกิจการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ของบริษัทย่อยจำนวน 5 บริษัทในครั้งนี้ถือเป็นผลดี และเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท สำหรับแผนในการใช้เงินที่ได้รับครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจและลงทุนตามแผนดำเนินงานในอนาคต อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์การนำเงินไปใช้ดังกล่าวเป็นแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ ปัจจุบัน ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ณ ขณะนั้น

ทั้งนี้ อนันดาฯ ยังคงยึดมั่นดำเนินงานภายใต้จุดยืน URBAN LIVING SOLUTIONS เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งช่วยในการแก้ปัญหาของชีวิตคนเมือง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น นำเสนอสินค้าที่ดีและมีคุณภาพพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าจากอินไซด์ของคนเมือง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าคนเมืองได้ครบทุกเซกเม้นท์ โดยมีสินค้าพร้อมโอนในปี 2567 มูลค่า 28,284 ล้านบาท และโครงการพร้อมส่งมอบในปี 2568 มูลค่า 11,929 ล้านบาท รวมทั้งหมดมูลค่า 40,213 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ เป็นการส่งสัญญาณดีขึ้น ยืนยันได้จากผลดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2567 โดยสามารถพลิกทำกำไรในรอบ 3 ปี สร้างกำไรสุทธิ 195 ล้านบาท เติบโตขึ้น 425% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน