Phones





BBL อวดกำไร Q2 พุ่ง 12% เฉียด 1.2 หมื่นล.

2024-07-18 18:25:54 48



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – BBL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 11,807 ล้านบาท โต 12.2% จากไตรมาสแรก ขณะที่งวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 22,330 ล้านบาท โต 4.2% รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และกองทุนรวม
 
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 11,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 10,524 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11,294 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 22,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21,423 ล้านบาท
 
โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 8.1% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.05% สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น จากบริการประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) และบริการกองทุนรวมที่ยังคงเติบโตดี ขณะที่กำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ลดลงตามสภาวะตลาด
 
สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับงวดแรกปีก่อนจากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 45.6% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ธนาคารตั้งผลขาดทุนด้านเครดิต
ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 19,007 ล้านบาท โดยพิจารณาภายใต้หลักความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
 
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2567 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,719,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จากสิ้นปีก่อน ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวม(NPL) อยู่ที่ 3.2% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 282.5% เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง
 
ขณะที่ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2567 จำนวน 3,184,856 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 85.4% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 19.5% 16.1% และ 15.3% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด