Phones





SCBX กำไร Q2/67 วูบ 15% ตั้งสำรองพิเศษหวั่นลูกค้ารายใหญ่พ่นพิษ

2024-07-19 18:28:56 222



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBX รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67 มีสุทธิ 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% ขณะที่กำไรงวด 6 เดือนแรกปี 67 อยู่ที่ 21,295 ล้านบาท ลดลง 6.9% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากแบงก์แอสชัวรันส์ และค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน ขณะที่มีการตั้งสำรองพิเศษรองรับความเสี่ยงของลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง
 
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์และยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการ ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เน้นความมั่นคงทางการเงิน รักษาระดับเงินสำรองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
 
โดยผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2567 มีสุทธิจำนวน 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 21,295 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 2/2567 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 32,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ
 
ขณะที่สินเชื่อโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตรา 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อและมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน รายได้ค่าธรรมเนียม และอื่น ๆ มีจำนวน 10,328 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 18,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 41.2% 
 
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากปีก่อน โดยในไตรมาสนี้รวมการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7% คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 อยู่ที่ 3.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.8%        
 
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความท้าทาย บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดให้นักลงทุนรวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าถึง โอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคงอย่างทั่วถึง โดยในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา บริษัท ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท