Phones





โบรกประสานเสียง เชียร์ “ซื้อ” PTG ส่องกำไร Q2 โตสลุต 308%

2024-07-31 15:30:04 107



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.เคจีไอ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTG ประเมินราคาเป้าหมาย 10.40 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 เติบโตโดดเด่น 308% พร้อมปรับเพิ่มกำไรปี 67 เป็น 1.2 พันล้านบาท และปี 68 เป็น 1.45 พันล้านบาท ด้านบล.หยวนต้า ชู PTG เป็นตัวเลือกหุ้นพลังงานที่งบ Q2/67 แข็งแกร่ง และรับประโยชน์จากการปรับฐานของราคาน้ำมันดิบช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
 
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG โดยคาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 ของ PTG ไว้ที่ 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 76% จากไตรมาสก่อนหน้า รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าการตลาดน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.72 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า พร้อมคาดการณ์อัตรากำไรขึ้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 21.4% ในไตรมาสก่อน เป็น 22.3% เนื่องจากยอดขายจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยสูงขึ้นตามจำนวนสาขาที่มากขึ้น
 
ดังนั้นจึงพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ขึ้นอีก 8% เป็น 1.2 พันล้านบาท และปรับประมาณการกำไรทั้งปี 2568 เพิ่มขึ้น 9% เป็น 1.45 พันล้านบาท จากสมมติฐานปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 10.40 บาทต่อหุ้น
 
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ประเมินกำไรปกติไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 420 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 63% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 278% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้น 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยค่าใช้จ่ายต่อลิตรขยับขึ้นเป็น 1.7 บาทต่อลิตร เทียบกับ 1.6 บาทต่อลิตรในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างขยายธุรกิจ Non-Oil และทำการตลาดมากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการยังเติบโตได้ดีเนื่องจากปริมาณขายน้ำมันและ LPG ที่คาดจะทำ ได้ 1.7 พันล้านลิตร และ 172 ล้านลิตร ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ จากการขยายสาขา และอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจน้ำมันคาดทำได้ 1.72 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น11% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในส่วนของกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-oil คาดเติบโตเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า และ เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นเป็น 40 ล้านบาท จากที่ขาดทุนในไตรมาส 1/2567 เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจน้ำมันปาล์ม ธุรกิจเรือน้ำมัน และธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง
 
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 คาดชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาลเพราะเป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจน้ำมันในช่วงฤดูฝน โดยที่ผ่านมาปริมาณขายน้ำมันไตรมาส 3/2567 จะลดลง 5-15% จากไตรมาส 2/2567 แต่ผลการดำเนินงานจะสามารถกลับมาเติบโตอีกครั้งช่วงไตรมาส 4/2567 จากกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งหากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 เป็นไปตามคาด จะทำให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรกของปี 2567 จะคิดเป็น 62% ของประมาณการทั้งปี
 
ขณะที่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน โดยรับแรงหนุนจาก 1.ยอดขายน้ำมันได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชนและการท่องเที่ยว, 2.เป้าหมายขยาย Touchpoint ทั้งธุรกิจน้ำมัน และ Non-Oil และ 3.กลยุทธ์ปรับปรุงสถานีให้ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น และเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติม แนะนำ “เก็งกำไร” เป็นตัวเลือกหุ้นพลังงานที่งบไตรมาส 2/2567ยังแข็งแกร่ง รวมทั้งยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับฐานของราคาน้ำมันดิบในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ราคาเหมาะสม 9.90 บาท