Phones





SCN-CHO ฟ้อง ขสมก. เรียก 1.3 พันล. เบี้ยวค่าซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV

2024-08-19 10:56:58 193



นิวส์ คอนเน็คท์ - SCN-CHO ลุยฟ้อง ขสมก. ต่อศาลปกครอง เรียกชดใช้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,301,067,390.97 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย หลังเบี้ยวชำระค่าซ่อมบำรุง NGV ล่าช้า

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในฐานะสมาชิกของกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO (กลุ่มร่วมทำงานฯ) ได้พิจารณาถึงการเดินหน้าต่อ ตามกระบวนการกฎหมาย สำหรับ SCN-CHO ที่ล่าสุดได้ออกมายื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ ต่อศาลปกครองเป็นที่เรียบร้อย ในกรณีชำระค่าซ่อมบำรุง NGV ล่าช้า 

ก่อนหน้านี้ ได้มีการเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้กลุ่มร่วมทำงานฯ บอกเลิกสัญญาซื้อขายและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์ โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ “ขสมก” ตามสัญญาเลขที่ ร.51/2560 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2560 อันเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญมาจาก ขสมก. โดยปัจจัยหลักที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ขสมก. ชำระเงินล่าช้า 

ทั้งนี้ กลุ่มร่วมทำงานฯ ได้มีหนังสือทวงถามและเรียกดอกเบี้ยล่าช้าดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการเยียวยาหรือแก้ไขแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ ทำให้กลุ่มร่วมทำงานฯ ต้องหาแหล่งเงินทุนมาหมุนเวียนโครงการ ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ส่งผลกระทบให้การบริหารจัดการไม่เป็นไปตามแผน กลุ่มร่วมทำงานฯ ได้แจ้งให้ ขสมก. แก้ไข แต่ ขสมก. กลับเพิกเฉย  

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ได้ดำเนินกระบวนการยื่นคำฟ้องพร้อมชำระค่าธรรมเนียมศาลเรียบร้อย เพื่อใช้สิทธิดำเนินคดีกับหน่วยงานรัฐ ณ ศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 1428/2567 ระหว่าง กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ผู้ฟ้องคดี เพื่อเรียกให้ผู้ถูกฟ้องคดี (1) คืนเงินค่าจ้างที่ผู้ถูกฟ้องคดีใช้สิทธิตามสัญญาหักไว้เป็นค่าปรับไว้โดยไม่สุจริต (2) ชำระค่าดอกเบี้ยอันเกิดจากการผิดนัดชำระหนี้ค่าซื้อขายรถยนต์โดยสาร (3) ชำระดอกเบี้ยอันเกิดจากการผิดนัดชำระหนี้ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา (4) คืนเงินหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา และ (5) ชำระค่าเสียหายอันเกิดจากการขาดไร้ประโยชน์จากกำไรที่สมควรได้ในอนาคตในอัตราร้อยละ 35 ของค่าจ้างเหมาซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์โดยสารจำนวน 489 คัน ในปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 ทั้งนี้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,301,067,390.97 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย