Phones





BEMเฮ! ครม.ไฟเขียวต่อสัมปทานทางด่วน 3 สัญญา 15 ปี

2020-02-19 10:08:09 1126




นิวส์ คอนเน็คท์ - ครม.ไฟเขียว BEM ต่อสัมปทานบริหารทางด่วน 3 สัญญา รวม 15 ปี 8 เดือน แลกยุติข้อพิพาทรวม 17 คดี พร้อมอนุมัติศึกษาทางด่วนชั้น 2 ยาว 17 กม.


เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างสัญญาระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กรณียุติข้อพิพาททั้งหมดที่เกิดขึ้นรวม 17 คดี เพื่อแลกกับการแก้ไขสัญญาให้บีอีเอ็มเป็นผู้รับสัมปทานบริหารและจัดเก็บค่าผ่านทางทางด่วน 3 ฉบับ เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยจะไปสิ้นสุดสัญญาพร้อมกันในวันที่ 31 ต.ค.2578


อย่างไรก็ตาม หากประเด็นของการยุติข้อพิพาทไม่ถูกนำมาพิจารณา สัญญาสัมปทานเดิมก็จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.2563 ซึ่งจะส่งผลให้ กทพ.จะต้องเปิดประมูลเพื่อหาเอกชนเข้ามาบริหารใหม่ แม้ว่า กทพ.จะมีแนวคิดที่จะจ้างบีอีเอ็มรับบริหารไปก่อน ก่อนที่จะเจรจาสัญญาใหม่แล้วเสร็จ แต่ในแง่ของกฎหมายไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายร่วมทุนฉบับใหม่ กำหนดไว้ว่าการร่วมทุนรัฐและเอกชนต้องประมูลใหม่อย่างเดียว


ส่วนเรื่องการก่อสร้างและปรับปรุงทางพิเศษชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่ กทพ.ศึกษาว่าจะเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาการจราจร และทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ในการใช้ทางนั้นกระทรวงคมนาคมจึงยังไม่มีการเสนอให่ไว้ในร่างสัญญาฉบับใหม่นี้ แต่เบื้องต้นทราบว่าจะมีการศึกษาสร้างทางให้ยาว 17 กิโลเมตรและเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ซึ่งเอกชนไม่ติดปัญหา เพียงแต่ติดปัญหาเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเท่านั้น จึงให้เวลาเอกชนไปศึกษาและรอวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) อีก 2 ปี หากขณะนั้นพบว่าโครงการเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ไม่มีผลกระทบ ก็ให้กลับมาเสนอขอ ครม.เพื่ออนุมัติสร้างอีกครั้ง


ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การทำสัญญาฉบับใหม่นี้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อลงนามสัญญาภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อทำให้สัญญาต่อเนื่องกันทันที ส่วนเงื่อนไขของส่วนแบ่งรายได้ ยืนยันว่ายังคงในสัดส่วนเดิม คือ กทพ.ได้รับส่วนแบ่ง 60% และ BEM ได้ส่วนแบ่ง 40% นอกจากนี้ภายใต้สัญญาใหม่บีอีเอ็มยังมีสิทธิในการเจรจาต่อสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี แต่รัฐฯ ก็มีสิทธิในการพิจารณาไม่ต่อสัญญาก็ได้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews