นิวส์ คอนเน็คท์ - ANAN ปรับกลยุทธ์รับมือปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจ เน้นโครงการที่มีความต้องการของตลาดเป็นหลัก วางเป้ายอดขายปี 63 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ 22,000 ล้านบาท พร้อมโชว์ Backlog 31,000 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนโครงการมิกซ์ยูสร่วมกับพันธมิตร “กลุ่มบีทีเอส” บนที่ดินกว่า 200 ไร่ ย่านบางนา-ตราด

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 63 มองว่าจะมีความท้าทายเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนที่มีปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีน การออกมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งปีนี้ยังมีปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกลยุทธ์สำคัญในปีนี้คือการพิจารณรความต้องการของตลาด และมีการเปิดโครงการที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า รวมไปถึงการบริหารสต๊อกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับในปี 63 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมีเนียม 88% และแนวราบ 12% โดยในปีนี้บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 1 โครงการคือ “ไอดีโอ พหล-สะพานควาย” ซึ่งมีมูลค่าโครงการาว 8,500 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ไว้ที่ราว 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 31,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ราว 12,000 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 65

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการนำโครงการพร้อมขายออกมาเสนอให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีโครงการพร้อมขายจำนวน 38 โครงการ และในปีนี้จะมีโครงการที่สร้างเสร็จอีก 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 29,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ IDEO Q VICTORY, Elio Del Nest, ASHTON Asoke- Rama 9, Ideo Q Sukhumvit 36, Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint, IDEO Ratchada - Sutthisan, Elio Sathorn -Wutthakat ขณะที่ในปีนี้บริษัทมีแผนการออกขายหุ้นกู้วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท โดยจะมีการออกขายในไตรมาส 2/63 จำนวน 3,000 ล้านบาท และในไตรมาส 4/63 อีก 3,000 ล้านบาท

ในส่วนของโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจนั้น บริษัทจะยังคงมีการร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่องกับทาง “มิตซุย ฟูโดซัง รวมถึงโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ที่จับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเด้นซ์ระดับลักชัวรี่ชั้นนำของโลก โดยกำลังจะแล้วเสร็จและพร้อมดำเนินการ 2 โครงการในปีนี้ คือ SOMERSET RAMA9 และ LYF SUKHUMVIT 8 ซึ่งจะมาช่วยเสริมให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ(Recurring Income) โดยบริษัทตั้งเป้าพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ปีละ 2 โครงการ

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายแหล่งรายได้ใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลักด้วยการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสครั้งแรกร่วมกับพันธมิตรอย่างกลุ่ม บีทีเอส บนที่ดินกว่า 200 ไร่ บริเวณหน้าโครงการธนาซิตี้ ติดถนนบางนา - ตราด โดยตั้งเป้าให้เป็น Smart City และ Technology & Innovation Hub เพื่อพลิกโฉมวงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง สำหรับกลุ่มดุสิตขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและพัฒนาร่วมกัน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews