Phones





CH เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุยขยายฐานลูกค้าหนุนรายได้แตะ 1.9 พันล.

2024-08-29 17:24:48 163



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - CH เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่โซนยุโรป เอเชีย พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงการอัพเกรดมาตรฐานสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตอบโจทย์เทรนด์อาหาร-ขนมเพื่อสุขภาพ ผลักดันแบรนด์ Bangkok Tasty รับดีมานด์ลูกค้าในประเทศและนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน ผลักดันรายได้รวมปี 67 ทำได้ตามเป้า 1.9 พันล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ส่งเสริมให้การบริโภคอาหารแปรรูปและขนมมีความคึกคักขึ้น ช่วยสร้างยอดขายและสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป
 
สำหรับแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าตามแผนงาน ส่งทีมขายเร่งเจรจาเปิดตลาดใหม่โซนยุโรปและเอเชีย พร้อมทั้งอัพเกรดคุณภาพมาตรฐานสินค้า โดยอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอเครื่องหมายรับรองคุณภาพในประเทศจีน ช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นฐานลูกค้าเดิมและเปิดโอกาสขยายลูกค้าใหม่ได้กว้างขึ้น
 
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและรสชาติ ผ่านการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอินไซต์ของผู้บริโภค เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและตรงตามความต้องการกลุ่มลูกค้าในประเทศ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ใส่ใจการบริโภคอาหาร-ขนมที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมผลักดันสินค้าขนมเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH) อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกของ 2567 บริษัทมียอดขายเติบโตก้าวกระโดดที่ 577.21 % จากปี 2566 และยังคงมีดีมานด์เพิ่มขึ้น
 
ขณะที่บริษัทเตรียมแผนเพิ่มศักยภาพช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ได้แก่ Shopee , FACEBOOK , TikTok Shop , LINE Shopping และขยายจุดจำหน่ายโมเดิร์นเทรดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสการขาย ปัจจุบัน วางจำหน่ายที่ CENTRAL VILLAGE , บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 8 สาขา , 7-Eleven 50 สาขา , เทสโก้ โลตัส 34 สาขา , Gourmet Market 4 สาขา ซึ่งจุดจำหน่ายดังกล่าวเป็นทำเลที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับสากลทั่วโลก สร้างโอกาสพบตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้าสินค้าในกลุ่มประเทศเป้าหมายรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น สร้างการเติบโตของรายได้ให้ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด OEM แบบ One Stop Service ชูจุดแข็งนวัตกรรมการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเครื่องจักรและระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย ในราคาที่คุ้มค่ามีความหลากหลายของดีไซน์ พร้อมผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อวางจำหน่าย          
 
“เชื่อมั่นว่าการวางกลยุทธ์ที่เข้มข้นของครึ่งปีหลัง ทั้งด้านการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสากล รวมถึงนวัตกรรมการจัดเก็บวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่งผลให้มีวัตถุดิบเพียงพอต่อคำสั่งซื้อทั้งปี ถือเป็นจุดได้เปรียบทางการแข่งขัน ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จะผลักดันให้รายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,900 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง 89% ปลากระป๋อง 10% ขนมเพื่อสุขภาพ 1%” นายศักดา กล่าว