Phones





PTTGCคาดปริมาณการขายโต10%แม้เจอพิษโควิด-19

2020-02-26 18:35:17 1489




นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTGC ยังคงมั่นใจปีนี้ปริมาณการขายจะเติบโตตาม 10% หลังจากมี 3โครงการที่จะดำเนินการเดินเครื่องในปีนี้ คาด GRM สเปรดผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น ลุ้นโรคระบาดโควิด-19 จบไตรมาส 2/63 ชี้อาจจะกระทบผลประกอบการในไตรมาส 1/63 เล็กน้อย พร้อมขยายตลาดส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มทดแทนตลาดจีนหดตัว ลั่นประกาศลงทุนขั้นสุดท้ายปิโตรเคมีคอมเพล็อกซ์กลางปีนี้


เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ในปี 63 คาดว่ากำลังการผลิตรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 10% จากปี 62 นั้นมีกำลังการผลิตรวมที่ 11 ล้านตัน เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง และจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาเพิ่ม


โดยในปีนี้จะมีการเดินเครื่องโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naphtha Cracker เพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบของบริษัทฯและต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน 500,000 ตันและโพรพิลีน 250,000 ตันขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคืบหน้าไปแล้ว 85 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4/63

โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) และ โครงการโพลีออลส์ (Polyols) เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) 200,000 ตันต่อปี และผลิตภัณฑ์โพลีออลส์ (Polyols) 130,000 ตันต่อปี โดยทั้ง 2 โครงการเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน (Polyurethane) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ High Value Business (HVB) ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 85 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส3/63 ขณะที่ปริมาณการขายในปี 63 นั้นคาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 10% ได้ตามเป้าหมาย โดยเติบโตตามกำลังการผลิต


ส่วนปัจจัยเรื่องโรคระบาดโควิด-19 นั้นคาดว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น โดยคาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาส1/63 จะปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากยอดส่งออกในประเทศจีนปรับตัวลดลงราว 2% จากยอดส่งออกไปจีน 25% ของกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก 2.3 ล้านตัน โดยจากผลกระทบดังกล่าวบริษัทได้มีการส่งออกไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทดแทน โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนั้นมีการส่งออกไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว 25% ขณะเดียวกันก็มีการหาตลาดใหม่ๆ อย่าง อินเดีย และแอฟริกา ส่วนเหลือ 50% ขายในไทย อย่างไรก็ตามโรคระบาดโควิด-19 คาดว่าไตรมาส 2/63 จะเริ่มคลี่คลายดีขึ้น


สำหรับแนวโน้มทิศทางตลาดในปีนี้คาดว่าราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มธุรกิจธุรกิจโรงกลั่น และกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี โดยกลุ่มธุรกิจธุรกิจโรงกลั่นคาดว่าจะมีค่าการกลั่น (GRM) จะอยู่ในระดับ 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะในปี 2562 นั้นอยู่ในระดับ 3.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการการลดการใช้น้ำมันเตากำมะถันสูงในธุรกิจเดินเรือตามนโยบายของ International Marine Organization (IMO)
ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิต (สเปรด) ระหว่าง HDPE-Naphtha คาดว่าปีนี้อยู่ในระดับ 400-450 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนสเปรด Px- Naphtha คาดเฉลี่ยในระดับ 280-300 เหรียญสหรัฐต่อตัน และสเปรดราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นหลังจากปรับตัวต่ำสุดในปีก่อน


สำหรับแผนการลงทุนในระยะ 5 ปี (63-67) นั้นบริษัทเตรียมเงินลงทุนไว้ราว 2 แสนล้านบาทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนปีละ 30,000-40,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันนั้นบริษัทมีกระแสเงินสดในมือราว 30,000 ล้านบาท และส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.3 เท่าซึ่งยังมีศักยภาพในการกู้เงินอีก 2 แสนล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงมีศักยภาพเพียงพอในการขยายการลงทุนในอนาคตทั้งการลงทุนใหม่และการลงทุนซื้อกิจการ


โดยการซื้อกิจการนั้นมองหาโอกาสทั้งประเทศ และต่างประเทศในธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากได้ตั้งออฟฟิศไว้แล้วในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีแผนเข้าลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน(CVC) ด้านนวัตกรรมต่าง สำหรับลงทุนในโครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย(FID)ได้ช่วงกลางปีนี้ โดยจะเดินหน้าตามแผนที่จะออกไปสร้างการลงทุนบ้านแห่งที่สองในสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐแล้วเช่น ผ่านบริษัท เนเจอร์เวิร์ค ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้ว 500-600 ล้านดอลลาร์


นอกจากนี้ยังมีแผนเดินหน้าขยายการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามแผน 5 ปี ต่อเนื่องหลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนไปแล้ว 1 แสนล้านบาท และมีโครงการในมือที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ มูลค่า 1 แสนล้านบาท แต่คาดว่า จะสามารถอนุมัติโครงการได้ในเร็วๆนี้ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยลงทุนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews