Phones





BBL ประกาศงบ Q3/67 โต 10% ทะลุ 1.2 หมื่นล.

2024-10-17 19:43:12 110



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – BBL แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนปี 67 ฟาดกำไร 3.4 หมื่นล้านบาท รับแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่ม 4.4% หนุน NIM อยู่ที่ 3.05%
 
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2567 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 โดยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 12,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิรวม 34,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 4.4% จากการบริหารจัดการสภาพคล่องของธนาคารและอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้นตามภาวะอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.05%
 
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการลงทุนตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมที่ยังคงเติบโตดี ในส่วนของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด โดยที่ธนาคารยังคงรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 46.3% 
 
ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารมีการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/2567 ธนาคารจึงตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับ 9 เดือนปี 2567 มีจำนวน 27,204 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
 
โดย ณ สิ้นเดือนก.ย. 2567 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,638,697 ล้านบาท ลดลง 1.2% จากสิ้นปี 2566 โดยสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ยังคงมีการเติบโต สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.4% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 266.6% เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนก.ย. 2567 จำนวน 3,109,982 ล้านบาท ลดลง 2.3% จากสิ้นปี 2566 และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 84.8%
 
ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 20.8% 17.4% และ 16.6% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด