นิวส์ คอนเน็คท์ - GL มั่นใจผลงานปี 63 พลิกกำไร หลังปีก่อนขาดทุนสุทธิ 21.61 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าขยายสินเชื่อเชิงรุก ทั้งตลาดในไทยและกัมพูชา เน้นเจาะกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียน พร้อมลุยสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ตลาดเมียนมา เล็งคุมหนี้ NPL ให้ลดลงต่ำกว่า 5%

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 63 มองว่าจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ผลประกอบการกลับมาเป็นกำไรได้อีกครั้งจากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 21.61 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถเร่งการเติบโตของยอดปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น โดยจะเน้นไปที่กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อจำนำทะเบียน ทั้งตลาดในไทยและกัมพูชา รวมถึงการขยายสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่เมียนมาร์ เนื่องจากยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการะมัดระวังปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ปัญหาด้านการเมือง และปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีโอกาสปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 55% เนื่องจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ และบริษัทมีแผนในที่จะเข้าไปบริหารจัดการหนี้ NPL ทั้งหมด จากก่อนหน้านี้ที่มีการจ้างบริษัทภายนอกในการแก้ปัญหา NPL บางส่วน

ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะใช้การชำระคืนเงินกู้จำนวน 600 ล้านบาทในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ และส่วนที่เหลือจะใช้รองรับการขยายสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องคดีความต่างๆ อยู่บ้างในปีนี้ แต่คาดว่าจะลดลงจากปีก่อน จึงมองว่ากระแสเงินสดที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถรองรับการเติบโตเชิงรุกของธุรกิจในปีนี้

“เป้าหมายสำคัญในปีนี้คืออยากกลับมามีกำไรอีกครั้ง ซึ่งปีที่ผ่านมา เรามีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องกับ JTrust และเรามีการปรับโครงสร้างภายในด้วย ทำให้การขยายธุรกิจทำได้ไม่เต็มที่นัก แต่ปีนี้เราจะกลับมาขยายสินเชื่อเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในเมืองไทยกับที่กัมพูชาที่เรามีความพร้อมที่จะเดินหน้าธุรกิจได้เต็มที่ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องคดีกับ JTrust ยังคงดำเนินต่อไป แต่จะไม่กระทบต่อธุรกิจในปีนี้อย่างแน่นอน” นายทัตซึยะ กล่าว

สำหรับในปี 62 ที่ผ่านมา บริษัทยังต่อสู้คดีกับ JTrust อย่างต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งได้พยายามทำให้ธุรกิจมีกำไรและเติบโตอีกครั้ง โดยบริษัทต่อสู้คดีกับ JTrust ในสิงคโปร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว และเพิ่งชนะคดีเมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทยังคงเตรียมต่อสู้คดี JTrust ในประเทศไทย และหวังว่าจะมีผลในทางเดียวกัน โดยบริษัทจะเริ่มดำเนินการสู้กลับ JTrust และ ฟ้องเรียกค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่ JTrust ก่อให้เกิดขึ้นผ่านการฟ้องคดี

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews