Phones





L&E กำไรทะยาน 312% อวด Backlog 1.3 พันล. หนุน Q4 สดใส

2024-11-14 20:52:47 132



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - L&E กำไรไตรมาส 3/67 โตแรง 312% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 720 ล้านบาท ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 34.5% รับผลบวกจากงานภาคเอกชนกลับมาขยายตัว และรับงานในส่วนงานโรงพยาบาล โรงงาน ดาต้าเซ็นเตอร์ ส่งซิกไตรมาส 4 โตต่อเนื่องไปถึงปี 68 รับแรงหนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง 1,300 ลบ.
 
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็นผลจากการขยายและปรับปรุงศูนย์การค้า และห้างร้านต่างๆ รวมถึงเงินงบประมาณแผ่นดินได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นปกติแล้วหลังจากที่ล่าช้ามาเป็นเวลานาน มีส่วนช่วยให้รายได้จากการขายและให้บริการของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย
 
ขณะที่บริษัทมีกำไรงวดไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 312% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำไรขั้นต้นจากการขาย รวมรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 27.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% โดยอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 30.4% ในปี 2566 เป็น 34.5% ในปี 2567 เป็นผลจากบริษัทได้พัฒนากระบวนการผลิตจนสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในไตรมาสนี้บริษัทได้ขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและให้บริการ รวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 10.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% สาเหตุใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามผลประกอบการได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และค่าเช่าคลังเก็บอุปกรณ์สินค้าสำหรับธุรกิจ Entertainment Lighting ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลจากการปรับเงินเดือนประจำปีด้วย โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาท
 
โดยในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้งานโครงการใหญ่ใหม่ๆ ได้แก่ โครงการ Punn Rama IV, งานสวนสัตว์แห่งใหม่ คลองหก ปทุมธานี, งานปรับปรุงไฟแสงสว่างภายในอาคาร สนามบินสุวรรณภูมิ, โรงพยาบาลราชวิถี อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉินใหม่, โรงพยาบาล คณะแพทย์ศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อาคารผู้ป่วยใหม่ และงานดาต้าเซ็นเตอร์ PTT, TERRA, TRUE, GENESIS, AMAZON, AIS เป็นต้น ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลและดาต้า เซ็นเตอร์ เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เนื่องจากมีความจำเป็นในการใช้ไฟเป็นจำนวนมาก
 
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องไปถึงปี 2568 เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท รวมทั้งโอกาสในการเดินหน้างานบัญชีนวัตกรรมจากภาครัฐ จากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย และการพัฒนาตัวสินค้านวัตกรรมมากขึ้น รวมทั้ง LEM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ L&E เริ่มทยอยกลับมาผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ขณะที่งานโครงการมิกซ์ยูสใหญ่ๆ 2-3 โครงการ ที่อยู่ใน Backlog แล้ว ยังชะลอตัวซึ่งคาดว่าจะไปรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567 โดยมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2567 จะเติบโตราว 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา