Phones





TEKA ส่งซิก Q4 ฟื้นตัว เตรียมร่วมวงประมูลงานใหม่ปี 68

2024-11-20 20:37:25 58



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – TEKA มั่นใจผลงานไตรมาส 4/67 ฟื้นตัว หลังเตรียมรับรู้รายได้จากการเปิดงานโครงการใหม่ 3 โครงการ หนุนผลงานทั้งปีโตตามแผน พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10-15% มองอุตสาหกรรมก่อสร้างปี 68 ฟื้นตัว รับแรงหนุนเม็ดเงินรัฐและเอกชนเดินหน้าลงทุน ร่วมประมูลงานใหม่ราว 10 โครงการ หวังได้งานอีกราว 2-3 โครงการ
 
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะฟื้นตัวโดดเด่นจากไตรมาส 3/2567 เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างโครงการใหม่ที่บริษัทได้รับมาในปีนี้ อาทิเช่น โครงการ Standard Huahin, VIA 61 และ PANORA เป็นต้น ส่งผลให้รายได้รวมทั้งปีของบริษัทเติบโตได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ คาดว่ารายได้ปีนี้จะทำได้ประมาณ 2,100 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10-15% และรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 5%
 
ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้จากการก่อสร้างจำนวน 1,456.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.95% จากงวดเดียวกันของปี 2566 มีรายได้อยู่ที่ 1,428.33 ล้านบาท คิดเป็น 7.18% ต่อรายได้รวม มีกำไรสุทธิ 107.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.18% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 62.98 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 210.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.97% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 178.79 ล้านบาท เนื่องจากมีการวางแผนบริหารปรับลดต้นทุนตามนโยบายของบริษัทเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
 
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3,243 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปี 2567-2568 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้อีกประมาณ 600 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปีถัดไป และยังมีการมุ่งหวังที่จะเพิ่มงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดหวังได้รับงานใหม่เข้ามามูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทในแต่ละปี หรือคิดเป็นจำนวนโครงการประมาณ 2-3 โครงการใหม่ต่อปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ปี 2567 และปี 2568 เติบโตตามแผนที่วางไว้
 
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ภาคธุรกิจอสังหาฯ และงานก่อสร้าง ต้องเผชิญกับความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ แต่บริษัทยังคงความสามารถในการรับงาน และส่งมอบงานได้ตามแผน ควบคู่ยังรักษาความสามารถในการทำกำไร โดยงวด 9 เดือนแรกปีนี้ รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 70% ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง บริษัทมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งราว 500 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้สินและดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอให้กับผู้ถือหุ้น
 
ขณะที่บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2568 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน และมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ๆ ราว 10 โครงการ คาดหวังว่าจะได้งานโครงการใหม่ๆ อีก 2-3 โครงการ โดยโครงการแรกจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1/2568