Phones





PTG ส่งสัญญาณโค้งท้ายปี ธุรกิจ Oil - Non Oil สดใส

2024-11-22 10:14:03 70



นิวส์ คอนเน็คท์ - PTG ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายธุรกิจ Oil - Non Oil สดใส รับแรงหนุนจากระบบสมาชิก Max Card - ภาคเกษตร-ท่องเที่ยว-เศรษฐกิจฟื้น ตอกย้ำ! ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งปี 67 โตเข้าเป้า 10-15%

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและความยั่งยืน นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายธีรพันธ์ ดิษยบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสสาขาบัญชีและการเงิน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วมนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2567 ในงาน Opportunity Day บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

โดยนายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยถึงแนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี 2567 เชื่อว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่ดี เนื่องจากไตรมาส 4 เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวทางการเกษตร รวมถึงการเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการใช้บริการของสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผนวกกับการพัฒนาบริการ PT Service Master เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การปรับปรุงสถานีให้ทันสมัยและครบครันมากยิ่งขึ้นพร้อมขยายสาขาในทำเลศักยภาพ  

โดยปี 2567 นี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขา

สำหรับธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG) บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปี ไม่ต่ำกว่า 40-50% เมื่อเทียบปีก่อน  ซึ่งในส่วนของธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาเป็น 1,282 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 1,126 สาขา เป็นผลมาจากการใช้บริการของอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้ารายเดิมและกลุ่มลูกค้าสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus รวมถึงมีแคมเปญทางการตลาดที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth)  

นอกจากนี้ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil ยังวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาจากสถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs รวมถึงสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart ซึ่งเป็นการสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการทั้งในด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและการดูแลบำรุงรักษารถยนต์อย่างครบวงจร และสอดคล้องกับเป้าหมายในการยกระดับความอยู่ดี มีสุขของคนไทยทุกพื้นที่ให้สามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจ มีความสุข และปลอดภัยในทุกเส้นทาง

ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 (สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567) มีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 424 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 0.48 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 149,286 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาทเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24 ล้านบาท

การเติบโตของรายได้ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0% เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 5,013 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า  

ส่วนธุรกิจ Non-Oil งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492 ล้านบาท เติบโต 25.8% โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ ซึ่งธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% โดยในงวด 9 เดือนบริษัทฯ มีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น 525 สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน  

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อเน้นย้ำความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน หวังเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกช่วงของชีวิต