Phones





วิริยะประกันภัย คอนเฟิร์มเบี้ยประกันโต 2% ไม่หวั่นยอดขายรถยนต์ทรุดหนัก

2024-11-28 21:02:15 88



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - วิริยะประกันภัย มองยอดขายรถยนต์ในประเทศชะลอตัวกว่าที่คาด แต่มั่นใจเบี้ยประกันภัยรถยนต์เติบโตที่ระดับ 2% หรือคิดเป็นเบี้ยรับที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ด้านแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปี 68 คาดภาพรวมทั้งระบบยังไม่มีการปรับขึ้น ขณะที่วิริยะฯยังไม่มีแผนปรับขึ้น หลังยังสามารถควบคุม Loss Ratio ที่ระดับ 56%
 
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจจะยังสามารถรักษาการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปี 2567 ไว้ที่ระดับ 2% หรือคิดเป็นเบี้ยรับที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์สันดาป 95% ส่วนอีกประมาณ 5% หรือกว่า 1 พันล้านบาทเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ภาพรวมการรับประกันภัยรถยนต์ในปีนี้ของทั้งระบบอาจเติบโตได้ไม่มากนัก เนื่องจากตลาดรถยนต์ใหม่ชะลอตัวรุนแรง โดยมีรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจดทะเบียนในปีนี้เพียง 6 แสนคันจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 8 แสนถึง 1 ล้านคัน ซึ่งจะส่งผลกระต่อการเติบโตของเบี้ยประกันภัย
 
สำหรับแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปี 2568 นั้น บริษัทประเมินว่าภาพรวมของทั้งระบบจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคา ขณะที่บริษัทก็ยังไม่มีแผนแผนที่จะปรับขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันยังสามารถควบคุมอัตราเคลม (Loss Ratio) ไว้ที่ระดับ 56% แต่หากในอนาคตตัว Loss Ratio ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่าระดับ 60% บริษัทอาจพิจารณาเรื่องการปรับเบี้ยอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถยนต์ EV ที่มีอัตราการเคลมสูงถึง 70-80% นั้น บริษัทยืนยันว่ายังคงรับประกันภัยรถยนต์ EV และไม่มีการปฏิเสธ เนื่องจากคู่ค้าของบริษัทยังเป็นกลุ่มเดิมเพียงแต่อาจมีการหันมาขายรถยนต์ประเภทนี้มากขึ้นเท่านั้น
 
ขณะที่อัตราการต่ออายุเบี้ยประกันของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งมาจากการให้บริการเคลมที่รวดเร็ว โดยบริษัทมีศูนย์รับเรื่องกว่า 90 แห่งและมีจุดกระจายรอการตรวจสอบอีกเป็นจำนวนมาก และพนักงานเคลมของบริษัทจะสามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว เนื่องจากบริษัทมีระบบติดตัวตามระบุตำแหน่งของพนักงาน ซึ่งสามารถติดต่อให้พนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุดไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว โดยสถิติการเคลมอุบัติเหตุในช่วงที่ผ่านมาของปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 6% รวมทั้งหมดประมาณ 6 แสนครั้ง แบ่งเป็นการเคลมที่มีคู่กรณี 2 แสนครั้ง และเป็นการเคลมที่ไม่มีคู่กรณี 4 แสนครั้ง คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 1 หมื่นล้านบาท