Phones





"นอท สลากพลัส” ร่อนแถลงการณ์ ย้ำ! ตั้งใจจริงเข้ามาบริหาร EE

2024-12-06 15:07:19 56



นิวส์ คอนเน็คท์ - "นอท สลากพลัส” หรือ "พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์" ร่อนแถลงการณ์ หลังถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการเข้ามาถือหุ้นรายใหญ่และกุมอำนาจ EE ยืนยัน! ความโปร่งใสและความตั้งใจที่จริงจังในการบริหารงานภายใต้ความร่วมมือจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ขณะที่นักลงทุนแห่เก็งกำไร ดันราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิ่ง สวนทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกโรงเตือน

จากกระแสข่าวและคอมเม้นต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE ซึ่งได้มีการรายงานตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 แบบ Big Lot จำนวน 1,607,000,000 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 57.81% ของทุนชำระแล้วของบริษัท โดยผู้ดำเนินการเพิ่มทุนคือ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม “นอท กองสลากพลัส” ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับได้รับสิทธิ์บริหารตามสัดส่วนการถือหุ้นในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท นั้น

ช่วงบ่ายของวันที่ 6 ธันวาคม 2567 นายพันธ์ธวัช ได้ชี้แจงถึงการเข้าเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้นในครั้งนี้ว่า “การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรับตำแหน่งประธานกรรมการของ EE ถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางการทำงานของผม ผมมองเห็นศักยภาพและโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในธุรกิจด้านเทคโนโลยี และเชื่อมั่นว่า EE จะสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการบริหารที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมตั้งใจที่จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและผลักดันให้ EE กลายเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือในระดับประเทศได้”

“ผมขอเน้นย้ำถึงความโปร่งใสและความตั้งใจที่จริงจังในการบริหารงานภายใต้ความร่วมมือจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ การตัดสินใจทุกอย่างจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกคน ผมให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา และพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่เหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว”

“ผมทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้เกิดคำถามและความกังวลในบางกลุ่ม แต่ผมขอให้คำมั่นว่าผมและทีมงานทุกคนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถและโปร่งใส เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นคงของบริษัทในอนาคต ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในตัวผม และผมจะใช้โอกาสนี้สร้างผลงานที่จับต้องได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายและนำพา ‘EE’ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความสำเร็จร่วมกัน”

ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยซึ่ง จะมีการจัดการประชุมกรรมการบริหาร เพื่อหารือและลงมติถึงการเข้าทำธุรกิจใหม่ ให้นำพาสู่รายได้และกำไรอันสูงสุด โดยบริษัทฯจะมีการรายงานคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบในช่องทางข่าวสารอย่างเป็นทางการของบริษัทต่อไป

ด้านราคาหุ้น EE เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่น แม้ว่าหุ้นจะยังติดมาตรการ T1 หรือต้องซื้อ-ขายด้วยเงินสดก็ตาม โดยราคาขึ้นไปชน Ceilling ที่ 0.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 29.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.288 ล้านบาท ปริมาณซื้อขาย 9.289 ล้านหุ้น ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้ EE ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลด้วยความระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ และติดตามความคืบหน้าของบริษัทในการเข้าลงทุนในธุรกิจ Tech ต่อไป