Phones





SEAFCO จ่อรับงานฐานรากสีส้มตะวันตก โบรกฯ ชี้ผลงานผ่านจุดต่ำสุด

2024-12-06 18:23:07 159



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SEAFCO ลุ้นรับงานฐานรากในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจาก CK คาดได้รับงานจำนวน 4-5 สถานี มูลค่ารวม 1.2 - 1.3พันล้านบาท มั่นใจผลงานปี 68 กลับมาฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมก่อสร้าง หวัง Backlog พุ่งแตะ 1.5 พันล้านบาท ด้านบล.ฟินันเซีย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท มองผลประกอบการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/67
 
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ามีโอกาสได้รับฐานรากจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจาก บมจ.ช.การช่าง หรือ CK โดยคาดว่าจะได้รับงานจำนวน 4-5 สถานี คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.2 - 1.3พันล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1/2568
 
ทั้งนี้ มองว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2568 จะทยอยฟื้นตัวจากปี 2567 ขับเคลื่อนจากงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มากขึ้น ขณะที่บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 อยู่ ที่ 660 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับรถไฟฟ้าสายสีส้มจะผลักดันให้ Backlog ช่วงต้นปี 2568 เร่งขึ้น เป็น 1.5 พันล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดรอบ 2 ปี โดยบริษัทมีงานอยู่ระหว่างประมูลรวม 1.8 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนหลักเป็นงานภาครัฐ 62% และเอกชน 38% ส่วนงานรถไฟฟ้าใต้ดินในบังกลาเทศ บริษัทไม่ให้น้ำหนักมากนักเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนและกรอบเวลาการเริ่มงานไม่ชัดเจน
 
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมองว่าผลประกอบการของ SEAFCO ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วในไตรมาส 3/2567 และคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากงานก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยาที่มีปัญหา Cost Overrun ถูกตั้งสํารองทั้งหมดแล้วในไตรมาส 3/2567 โดยฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2567 จะอยู่ที่ 30 – 35 ล้านบาท ลดลง 80% จากปีก่อน
 
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกําไรปี 2568 กลับมาฟื้นตัวโดดเด่นเป็น 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากการรับรู้ รถไฟฟ้าสีส้มซึ่งขนาดใหญ่และเป็นงานรับเฉพาะค่าแรงที่มาร์จิ้นดี โดยระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี ผลักดันให้กําไรทยอยฟื้นในไตรมาส 1/2568 และกำไรจะโดดเด่นในไตรมาส 2 – 3/2568 ในส่วนของโครงการซื้อหุ้นคืน 25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.07% ของหุ้นทั้งหมด วงเงิน 50 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ส.ค. 2567 ถึง 20 ก.พ. 2568 โดย ณ วันที่ 18 พ.ย. 2567 บริษัทซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 6.98 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.86% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ย 2.19 บาทต่อหุ้น
 
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงราคาเหมาะสมของ SEAFCO ในปี 2568 ไว้ที่ 3.00 บาทต่อหุ้น อิง PBV 1.4 เท่า และยังคงแนะนํา “ซื้อ” โดยระยะสั้น Key Catalyst จะมาจากการรับงานฐานรากของรถไฟฟ้าสีส้ม ซึ่งคาดว่า CK จะทยอยประกาศเดือนธ.ค. 2567