นิวส์ คอนเน็คท์ – AOT เจอพิษโควิด-19 ผู้โดยสารต่างประเทศของสุวรรณภูมิลดกว่า 60% ขณะที่เดือน ก.พ.ภาพรวมผู้โดยสาร 6 ท่าอากาศยาน ลด 5.5% หวั่นภาพรวมทั้งปีฉุดรายได้ลดมากกว่า 10% พร้อมเลื่อนเปิดใช้อาคารแซทเทิลไลท์ เม.ย.64

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่บาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ส่งผลกระทบกับบริษัทอย่างมาก โดยภาพรวมผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยานของ AOT ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ในช่วงไตรมาส 2/63 (ม.ค.-มี.ค.) คาดว่าผู้โดยสารจะลดลงกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมเที่ยวบินลดลง 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยตั้งแต่เดือน ก.พ. 63 จนถึงปัจจุบันนั้น ผู้โดยสารลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผู้โดยสารระหว่างประเทศของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลดลงกว่า 50-60% และผู้โดยสารภายในประเทศ ปรับตัวลดลง 20% หรือจากจำนวน 2 แสนคนต่อวันเหลือ 9 หมื่นคนต่อวัน

“ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ ตั้งแต่ ต.ค.62-ม.ค.63 ภาพรวมผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ยังอยู่ในระดับที่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2.9% แต่ตั้งแต่เดือน ก.พ. ผู้โดยสาร ก็เริ่มปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ นับได้ว่าวิกฤตตั้งแต่ AOT เปิดดำเนินงานมา” นายนิตินัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อใด แต่หากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในช่วงเดือน เม.ย.63 ตามที่หลายคนคาดการณ์ ก็ยังจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมผู้โดยสาร โดยภาพรวมผู้โดยสารทั้งปีคาดว่าจะปรับลดลงไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทปรับตัวลดลงมากกว่า 10%

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT1) ที่ต้องเลื่อนการเปิดให้บริการออกไปเป็นประมาณเดือน เม.ย.64 จากเดิมจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.63 และเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.63 เนื่องจากขณะนี้มีวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งภายในอาคารหลายรายการยังไม่สามารถส่งมาได้จากประเทศจีน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com

หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews