Phones





PTG เซียนหุ้นประสานเสียง "ซื้อ" เป้าสูงสุด 12.70 บ.

2025-01-06 09:01:32 92



นิวส์ คอนเน็คท์ - เซียนหุ้นประสานเสียง "ซื้อ" หุ้น PTG ให้กรอบราคา 11-12.70 บาท บล.ยูโอ เคย์เฮียน ประเมินยอดขายน้ำมัน Q4/67 เติบโต 8-10% เคาะเป้าหมายปี 68 สูงสุด 12.70 บาท ด้าน บล.หยวนต้า คาดกำไรปี 68 เติบโตดี แรงหนุนจากปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้น และธุรกิจ Non-Oil เติบโต ได้กลยุทธ์ PT Max Card หนุน ราคาเหมาะสม 11 บาท

ผู้สื่อข่าว "นิวส์ คอนเน็คท์" รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยฝ่ายวิจัยฯ เผยแพร่บทวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิ Q4/2567 ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จะฟื้นตัว จาก High season ของภาคท่องเที่ยว รวมถึงการผ่านช่วงฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. 67 เป็นต้นไป เป็นปัจจัยหนุนยอดขายน้ำมันให้กลับมาฟื้นตัว ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าจะได้เห็นยอดขาย Q4/2567 เติบโต 8-10% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าสมมติฐานค่าการตลาดที่ 1.70 บาทต่อลิตร ยังมีความเป็นไปได้ และอยู่ในกรอบเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ 1.70-1.80 บาทต่อลิตรในปี 2567 ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 12.70 บาท อ้างอิง P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ที่ระดับ -1.0 S.D.ที่ 17.8 เท่า อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ "ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" หลังจากราคาหุ้นปรับเพิ่มกว่า 23% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

ด้าน บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ตามที่ผู้บริหารบริษัทฯ Guidance Q4/2567 ปริมาณขายน้ำมันเติบโตเมื่อเทียบไตรมาสก่อน จากอุปสงค์ฟื้นตัวตามฤดูกาล และน้ำท่วมคลี่คลาย คงเป้าหมายทั้งปีเติบโต 10-15% เมื่อเทียบปีก่อน ขณะที่ Q4/2567 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจน้ำมันต่อลิตรสูงขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสก่อน จาก 1.65 บาทต่อลิตรใน Q3/2567 และคาดการณ์ทั้งปีเฉลี่ย 1.70-1.80 บาทต่อลิตร ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า แม้ SG&A จะปรับตัวขึ้นจากค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี และการเร่งขยายสาขาธุรกิจ Non-Oil แต่คาดกำไรปกติจะเติบโตเมื่อเทียบไตรมาสก่อน โดยได้รับปัจจัยบวก จาก 1.) ยอดขายน้ำมันเร่งตัวตามปัจจัยฤดูกาลทั้งกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวช่วงปลายปีและผ่านพ้นฤดูมรสุม 2.) กลยุทธ์บัตรสมาชิก PT Max Card 3.) อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และ 4.) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจน้ำมันปาล์มมีโอกาสเร่งตัวจากการพุ่งขึ้นของราคา CPO แตะระดับสูงสุดรอบกว่า 2 ปี 

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปี 2568 ของ PTG จะเติบโตได้ดีเมื่อเทียบปี 2567 ตามปริมาณสาขาธุรกิจ Oil และ Non-Oil, ภาคท่องเที่ยวขยายตัว, กลยุทธ์ PT Max Card, แรงกดดันค่าการตลาดต่ำลง จากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกชะลอตัว และเงินบาทแข็งค่า โดยในช่วง 6 เดือนข้างหน้า คาดผลประกอบการ Q4/2567-Q1/2568 ดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ที่ราคาหุ้น -14% ถือว่าสะท้อนความอ่อนแอของ Q3/2567 ไปแล้ว ซึ่งราคาปัจจุบันถือว่ามี Upside gain เปิดกว้างทางพื้นฐาน ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 11.00 บาท

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าแผน Spin-off บริษัทลูก 1.ATLAS ธุรกิจ LPG ในปี 2568 (ปัจจุบันยื่น Filing) และ 2.Punthai ธุรกิจร้านกาแฟ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม Spin-off ในอนาคต