Phones





EE หวังกลับมาเทรด 14 ม.ค. นี้ หลังโดนขึ้น SP

2025-01-13 18:13:39 151



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – EE หวังกลับมาซื้อ-ขาย 14 ม.ค. นี้ หลังถูกตลาดหทรัพย์ขึ้นเครื่อง SP มั่นใจดำเนินการบันทึกบัญชีอย่างโปร่งใส พร้อมเดินหน้าปั้นธุรกิจใหม่ตามแผน
 
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย SP และ CS โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากข้อกำหนดจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แก้ไขงบการเงินประจำปี 2566 และงบการเงินไตรมาสที่ 3/2567 นั้น บริษัทมีขั้นตอนการจัดทำงบการเงิน การบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องโปร่งใสและได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงผู้สอบบัญชีอิสระมาโดยตลอด ด้านการประเมินมูลค่าการลงทุน ใช้เงินลงทุน บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ทำหน้าที่ในการประเมิน เปรียบเทียบราคา และพิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการของบริษัทเพื่อการลงทุนที่คุ้มค่าและปลอดภัยทุกๆขั้นตอน อย่างไรก็ตาม บริษัทรับทราบข้อเสนอแนะดังกล่าวและจะดำเนินการในส่วนที่เหมาะสมต่อไป โดยยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใสเป็นสำคัญ
 
ทั้งนี้ การขึ้นเครื่องหมาย “SP” เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต.เท่านั้น ไม่มีความหมายเกี่ยวโยงต่อผลการตรวจสอบงบการเงินแต่อย่างใด โดยมีระยะเวลา 1 วัน คือวันที่ 13 ม.ค. 2568 และหลักทรัพย์ “EE” จะกลับมาทำการซื้อ-ขายได้ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป
 
“เราขอย้ำว่าเครื่องหมายดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการดำเนินงานหรือแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในระยะยาวสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ หรือธุรกิจ Tech ซึ่งมีโอกาสในการสร้างรายได้และการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจสื่อเทคโนโลยี, ธุรกิจให้บริการชำระเงิน และธุรกิจแพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าธุรกิจ Tech จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนไม่น้อยกว่า 12% พร้อมศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต เสริมให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงยิ่งขึ้น” นายอิศรา กล่าว
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนส่งหนังสือชี้แจงต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยต่อสาธารณชน ภายในวันที่ 10 ก.พ. 2568 เพื่อยืนยันความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน