Phones





AURA เด้งรับไฮซีซั่นธุรกิจค้าทอง โบรกเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้า18.50บ.

2025-01-29 18:46:57 99



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - AURA เปิดแผนปี 68 เดินหน้าขยายธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี รวมทั้ง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร ขณะที่ผลประกอบการเด้งรับไฮซีซั่นของธุรกิจทองทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน พร้อมรับอานิสงส์ราคาทองพุ่งแรง ด้านโบรกเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้าราคา 18.50 บาท
 
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2568 พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี รวมทั้ง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ประเมินราคาทองยังเป็นช่วงขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยภายใต้ความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเมือง และสงคราม ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่เปล่งประกาย และมีศักยภาพในการสร้างกำไรในอนาคต แม้ราคาทองจะมีความผันผวนปรับขึ้น-ลงในบางช่วงเวลา แต่มองว่าไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก เพราะบริษัทสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทั้งฝั่งขาขายและขารับซื้อได้อย่างเหมาะสม
 
ขณะที่ผลประกอบการได้รับอานิสงส์จากไฮซีซั่นธุรกิจทองในไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมา เป็นช่วงของเทศกาลของขวัญ และทองคำเป็นหนึ่งในของขวัญยอดฮิตที่ลูกค้าจะมาซื้อให้ผู้ใหญ่ เห็นสัญญาณบวกจากสาขาทั่วประเทศมีดีมานด์ยาวต่อเนื่องมาจนถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงเดือนม.ค. 2568 ขณะที่ในเดือนก.พ. เป็นช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ได้อานิสงส์ของขวัญในกลุ่มเครื่องประดับเพชร เป็นปัจจัยบวกธุรกิจต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/2568  
 
นอกจากนี้ ธุรกิจขายฝากทอง ภายใต้แบรนด์ ทองมาเงินไป (Gold Financing Business) มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา และมีพอร์ตลูกหนี้ขายฝากทำได้ทะลุเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 3,800 ล้านบาท และเป้าหมายใหม่ 4,500 ล้านบาท มั่นใจ ด้วยฐานทุนปีนี้ที่แข็งแกร่งขึ้น จะสนับสนุน AURA ในปี 68 ขยายการเติบโตของทองมาเงินไปได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้ปีที่ผ่านมา
 
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเป็นบวกต่อ AURA โดยประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 20 - 30% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลเพราะในไตรมาส 4 เป็นช่วงเทศกาลของขวัญ ขณะที่ธุรกิจทองมาเงินไปยังเติบโตต่อเนื่อง โดยผู้บริหารยังมองแนวโน้มราคาทองเป็นขาขึ้นมากกว่าลง ซึ่งบริษัทไม่ได้กังวลว่าราคาทองต้องขึ้นหรือลงถึงจะดี เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งสิ้น หากราคาไม่เคลื่อนไหวขึ้นหรือลงเกินกว่า 5-10% ในช่วงระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากในช่วงราคาทองคำขึ้นจะขายปลีกได้ลดลงแต่รับซื้อมากขึ้นขาย ซึ่งสามารถนำทองที่รับซื้อส่วนเกินกว่าที่ขายไปขายได้ในราคาตลาดทันที แต่หากราคาทองลงอาจจะทำกำไรฝั่งรับซื้อได้น้อยลงแต่ขายปลีกได้มากขึ้น ซึ่งทำกำไรจากธุรกิจขายปลีก และค่ากำเหน็จที่มีโอกาสปรับขึ้นได้ในช่วงที่ราคาทองลง
 
ส่วนแนวโน้มของค่ากำเหน็จที่จะปรับขึ้นอีกจะเกิดขึ้นได้จาก 1.สมาคมค้าทองคำประกาศปรับขึ้น บริษัทก็สามารถปรับขึ้นตามได้ และ 2. หากราคาทองปรับตัวลงความต้องการซื้อมากขึ้น ก็สามารถปรับขึ้นได้ เพราะผู้บริโภคไม่รู้สึกแตกต่างในช่วงราคาทองขาลง หากรวมแล้วราคายังต่ำกว่าตอนที่ราคาทองสูง บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาร้านทองอีก 20 สาขาในปี 2568 และขยายสาขาของทองมาเงินไปอีกไม่น้อยกว่า 100 สาขา หรือราว 50% ทำให้คาดว่าการเติบโตในปี 2568 จะไม่น้อยกว่า 20% ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 2025 ต่ำเพียง 17.6 เท่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 18.50 บาท