Phones





ปรับเกณฑ์ Ceiling&Floor และ Circuit Breaker

2020-03-17 21:21:07 283




การระบาดของไวรัส Covid-19 ยังคงกดดันการลงทุนทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับลดลงอย่างหนัก จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องใช้มาตรการพักซื้อขายชั่วคาาว หรือ Circuit Breaker หลังดัชนีปรับลดลง 10% ด้วยกันถึง 2 ครั้ง และต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยก็ยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดวันที่ 17 มี.ค.2563 ที่ระดับ 1,035.17 จุด ลดลง 10.91%


หากลำดับเหตุการณ์ วันจันทร์ (9มี.ค) ดัชนีฯตกไป 108 จุด วังอังคาร (10มี.ค) ดีขึ้นมาหน่อย บวกได้ 15 จุด วันพุธ (11มี.ค.) ตกลงไปอีก 21 จุด วันพฤหัสบดี (12มี.ค.) สาหัสอย่างที่เห็น ดิ่งไป 134 จุด ปิดวันศุกร์ (13มี.ค.) บวกมาได้ 14 จุด หักลบแล้ว หุ้นไทยตกไป 234 จุด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


สำหรับแนวโน้มดัชนีฯ สัปดาห์นี้ (16-20มี.ค.) นักวิเคราะห์คาดว่า ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการระบาดนอกประเทศจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศพุ่งแตะหลักพันราย ขณะที่ไทยเองก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดย บล.กสิกรไทย ออกมาคาดการณ์  5 สถานการณ์ สมมติฐานตลาดหุ้นกับ COVID-19 โดยระบุว่า 1.ค้นพบวัคซีนต้าน COVID-19 ดัชนีฯจะฟื้นตัวสู่ระดับ 1,630 จุด 2.ค้นพบยาต้านที่ใช้ต้านได้เป็นอย่างดีดัชนีฯจะฟื้นตัวสู่ระดับ 1,445 จุด 3.หลายประเทศสั่งปิดเมือง ห้ามกิจกรรมการท่องเที่ยว ดัชนีฯจะอยู่ที่ระดับ 1,297 4.กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ปิดเมืองเต็มรูปแบบ 14 วัน ดัชนีฯจะอยู่ที่ระดับ 1,177 และ 5.สถานการณ์ยืดยาว การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น ดัชนีฯอยู่ที่ระดับ 921


ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO ระบุในดัชนีฯความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน มี.ค.63 โดยพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลง 11.48% มาอยู่ที่ระดับ 64.40 อยู่ในเกณฑ์ซบเซาเป็นเดือนที่สอง


กลับไปที่ดัชนีหุ้นไทยที่ลดลงอย่างหนัก และการซื้อขายแต่ละวัน เสี่ยงที่จะต้องใช้ Circuit Breaker กันรายวัน จนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรับเกณฑ์ Ceiling&Floor และ Circuit Breaker มีผลวันที่ 18 มี.ค. ถึงไม่เกิน 30 มิ.ย.63 เพื่อให้การซื้อขายชะลอตัวลง และเสริมเสถียรภาพการลงทุน ให้นักลงทุนได้มีเวลาพิจารณาการลงทุนอย่างละเอียด อีกทั้งชะลอการซื้อขายเพื่อประทัง รอข่าวดีเข้ามาสนับสนุน



โดยเกณฑ์การปรับของ Ceiling&Floor ได้แก่ ตลาด SET , MAI โดยมีหุ้น, หน่วยลงทุน , Warrant , DW, ETF, TSR, DR สามารถขึ้นลงได้ไม่เกิน 15% จากเดิมที่ขึ้นลงได้ 30% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประเภท Foreign share สามารถขึ้นลงได้ไม่เกิน 30% จากเดิมที่ขึ้นลงได้ไม่เกิน 60% สำหรับตลาด TFEX สามารถขึ้นลงได้ไม่เกิน 15% จากเดิมที่ขึ้นลงได้ไม่เกิน 30%


ส่วนเกณฑ์ Circuit Breaker ได้ปรับจาก 2 ระดับ เป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 จากเดิมที่ Index ลดลง 10% จะหยุดซื้อขาย 30 นาที เป็น Index ลดลง 8% หยุดซื้อขาย 30 นาที และระดับที่ 2 เดิมที่ Index ลดลง 20% จะหยุดซื้อขาย 60 นาที เป็น Index ลดลง 15% หยุดการซื้อขาย 30 นาที ขณะที่ระดับที่ 3 หาก Index ลดลง 20% จะหยุดการซื้อขาย 60นาที

ต้องดูกันยาวๆ ว่า การปรับเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยพยุงดัชนีได้หรือไม่


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews