Phones





PTT กางแผนOR อัดงบ7.7หมื่นล. ลงทุน5ปี

2020-04-13 17:10:21 1340




นิวส์ คอนเน็คท์ – PTT ยันถือหุ้นใน OR ไม่น้อยกว่า 75% หลังระดมทุน เพื่อความคล่องตัวในการดูแลด้านพลังงานของประเทศ พร้อมมีแผนใช้เงินลงทุน 7.7 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี เร่งขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ บอร์ดเห็นชอบตั้ง “กฤษ์ อิ่มแสง” นั่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย


เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึงการนำ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของปตท. เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า การยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มกระจายหุ้นเมื่อใดนั้น นอกจกจะขึ้นอยู่กับกรอบเวลาของภาครัฐแล้ว ยังขึ้นอยู่กับภาวะตลาดด้วย

นอกจากนี้ การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น OR ยังมีแผนลงทุน 7.7 หมื่นล้านบาท ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2563-2567) ส่วนใหญ่เป็นการขยายสถานีบริการน้ำมัน 137 แห่ง/ต่อปี), ขยายร้านค้าปลีก ร้านอาหาร-ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ คาเฟ่อเมซอน 437 แห่งต่อปี, ร่วมถึงการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ, และลงทุนธุรกิจ EV



ส่วนกรณีที่ ปตท.จะยังคงถือหุ้น OR ไม่น้อยกว่า 75% นั้น ต้องการให้ OR ยังคงทำงานตอบวัตถุประสงค์เรื่องการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ช่วยเหลือภาคประชาชนได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจากเดิมนั้น ปตท.จะถือหุ้น 45-49%


รายงานข่าวจาก ปตท. แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด ปตท.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 63 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ แต่งตั้ง นายกฤษ์ อิ่มแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย แทนนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ซึ่งจะเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.คนใหม่ แทนนายชาญศิลป์ ที่ครบวาระ 60 ปี ในวันที่ 12 พ.ค.63


นอกจากนี้ ยังมีวาระรับทราบเรื่องการสนับสนุนช่วยเหลือผลกระทบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดย กลุ่ม ปตท.ดำเนินการสนับสนุน ด้านการแพทย์ แอลกอฮอล์ การพัฒนาชุดตรวจ ชุดแพทย์ และอื่นๆ ทั้งในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด การสนับสนุนต้นทุนลดราคาเอ็นจีวีรถรถโดยสาร 3 บาทต่อกิโลกรัม เหลือราคา 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน (16 มี.ค.-15 ส.ค.) โดยรวมวงเงินสนับสนุน แล้วกว่า 700 ล้านบาท


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews