Phones





ACG กำไรงวด 6 เดือน 17.16 ล้านบาท โต 39.40%

2025-08-14 15:21:12 78



นิวส์ คอนเน็คท์ - ACG ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 68 มีกำไรสุทธิ 6.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.85% ส่วนงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 17.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.40% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 โดย ACG และบริษัทย่อย (กลุ่ม ACG) มีรายได้รวมจำนวน 310.27 ล้านบาท ลดลง 16.96% จากไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีรายได้รวม 373.62 ล้านบาท 

สำหรับงวด 6 เดือนมีรายได้รวม 697.76 ล้านบาท ลดลง 13.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 809.53 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการของ 6 เดือนแรก ปี 2568 ลดลง 13.58% สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากส่วนงานจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งลดลง 137.31 ล้านบาท หรือ 28.62% อย่างไรก็ตาม ส่วนงานบริการและจำหน่ายอะไหล่ มีรายได้สำหรับงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้น 30.86 ล้านบาท หรือ 10.14% โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 กลุ่ม ACG มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 2.49%

ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยแห่งแรกที่ประกอบกิจการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการรถยนต์ มีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 เท่ากับ 263.96 ล้านบาท ลดลง 20.67% สำหรับงวด 6 เดือนมีรายได้รวมจำนวน 602.95 ล้านบาท ลดลง 16.81% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากปริมาณการขายรถยนต์ที่ลดลง 25.41% รวมทั้งปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของสถาบันการเงิน ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์รวมในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีรายได้ในไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้น 13.28% และงวด 6 เดือนเพิ่มขึ้น 9.45% โดยสรุป บริษัทย่อยแห่งแรกมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 2.27% เมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกของปี 2567 

สำหรับบริษัทย่อยแห่งที่ 2 ศูนย์บริการรถยนต์ประเภทเร่งด่วน (FAST FIT) มีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 จำนวน 49.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.27% และสำหรับงวด 6 เดือนมีรายได้รวม 101.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.84% เนื่องจากกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้ต่อคันและการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ที่ส่งผลให้รายได้ต่อคันของรถเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น 8.68% โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทย่อยแห่งที่ 2 มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น