Phones





BAM อวดกำไรทะลุ1.5พันลบ. ลุยปรับกลยุทธ์หนุนผลงานเข้าเป้า

2025-08-18 16:28:22 293



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - BAM เปิดผลงานครึ่งปีแรกสร้างผลเรียกเก็บสูง 10,154 ล้านบาท เติบโต 36% ขณะที่ผลเรียกเก็บไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปีนี้ 118% และมีกำไร 1,511 ล้านบาท เดินหน้าปรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ลุยธุรกิจเต็มสูบทั้งด้าน NPL/NPA ด้วย Model ธุรกิจใหม่ ในรูปแบบ “Opportunities for All” หวังดันผลเรียกเก็บทั้งปี 68 เข้าเป้า 17,800 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สามารถสร้างผลเรียกเก็บได้สูงถึง 10,154 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7,493 ล้านบาท เติบโต 36% ขณะที่งวดไตรมาส 2/2568 มีผลเรียกเก็บ 6,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 118% และมีกำไร 1,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 880 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ผลงานทางด้าน NPL ยังใช้แนวทางที่ให้โอกาสลูกหนี้ในการได้หลักประกันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกินกลับคืนไปด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน และมุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถฟื้นฟูกิจการหรือสถานะทางการเงินของตน โดยปรับโครงสร้างหนี้และหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ด้วยกระบวนการ Recycling Machine ซึ่งมีเป้าหมายในการเร่งสร้างโรงงานแก้หนี้ (TDR Factory) เพื่อฟื้นฟูให้ลูกหนี้กลับมามีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น ซึ่ง BAM สามารถสร้างรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้ NPL ลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งได้ข้อยุติถึง 2,800 ล้านบาท
 

ขณะที่การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA เดินหน้ากลยุทธ์พันธมิตรทางธุรกิจ (NPA Partnership) ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่มุ่งขยายฐานธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผ่านความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรที่มีศักยภาพ อาทิ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บมจ. วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์, บมจ. ไซมิส แอสเสท และบมจ. บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป รวมไปถึงสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารยูโอบี, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารอาคารสงเคราะห์

โดย BAM มุ่งเน้นการคัดสรรและนำเสนอทรัพย์ NPA ขนาด Big Lots ให้พันธมิตรนำไปพัฒนาและเพิ่มมูลค่า ทั้งบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และที่ดินเปล่า เพื่อพลิก “ทรัพย์ร้าง” ให้กลายเป็น “ทรัพย์สร้างกำไร” ต่อยอดเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้กับ BAM อย่างต่อเนื่อง ลดระยะเวลาการถือครอง และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว โดย BAM สามารถสร้างยอดขายจากการจำหน่ายทรัพย์แปลงใหญ่ได้ถึง 1,450 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์ดังกล่าวเป็นที่ดินเปล่าจำนวน 50 แปลง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่รวม 26-3-37.40 ไร่
 

สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์เชิงรุกทั้งด้าน NPL/NPA ด้วยแนวทาง Stronger Together โดยการเปลี่ยน Model “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” มาสู่ Model ธุรกิจใหม่ ภายใต้แนวคิด “Opportunities for All” ที่ให้โอกาสลูกหนี้ NPL พลิกฟื้นกลับมาเป็นลูกหนี้ Reperforming Loan (RPL) ด้วยกลยุทธ์ TDR Factory และโครงการ FA Center รวมทั้งได้มีการหารือเบื้องต้นกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดรหัสใหม่ให้กับลูกหนี้ผ่อนชำระดีต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ BAM จะเดินหน้าประสานงานรวมถึงหาพันธมิตรธนาคารที่จะเข้ามาช่วยลูกหนี้กลุ่มนี้ของ BAM ขณะเดียวกัน BAM ยังมีหน้าที่ในการช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาะหนี้ของสถาบันการเงิน และจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น ส่วนทางด้าน NPA ยังเดินหน้าความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่เป็น Developers ทั้งขนาด S M L ในรูปแบบ Model ที่ Developers จะเข้ามา flipping และขายให้กลุ่มลูกค้าของตนเอง
 

ขณะที่ทิศทางตลาดบ้านมือสองมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเห็นสัญญาณจากสถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยบ้านมือสองมีสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับบ้านใหม่ นอกจากนี้ BAM เตรียมเปิดตัวโครงการ “ทรัพย์มหาชน” สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง สามารถผ่อนชำระกับ BAM โดยตรง หรือผ่อนชำระกับสถาบันการเงินพันธมิตรที่ปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ BAM ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้ BAM ยืนหยัดได้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง แต่ยังแปรเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้กับ BAM พร้อมนำไปสู่เป้าหมายผลเรียกเก็บตามที่ตั้งไว้ 17,800 ล้านบาท โดยปัจจุบัน BAM มี NPL ที่อยู่ในความดูแล 91,009 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น 487,117 ล้านบาท และ NPA จำนวน 28,043 รายการ คิดเป็นราคาประเมิน 77,812 ล้านบาท