Phones





PTT ผลงานครึ่งปีแรก 68 กำไร 44,848 ล้านบาท

2025-08-20 20:42:47 59



นิวส์ คอนเน็คท์ - PTT มั่นใจ กลยุทธ์ที่วางไว้ ดำเนินมาถูกทาง หนุนผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก ทำกำไรได้ 44,848 ล้านบาท เกือบครึ่งของทั้งปี 67 ที่ทำได้ 9 หมื่นล้านบาท แม้ว่าต้องเจอหลากปัจจัยภายนอกรุมเร้า ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอ ราคาน้ำมันดิบลดลง
 
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แถลงว่า ผลดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกปี 2568 ยังคงแข็งแกร่ง ด้วยกำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิทั้งปี 2567 อยู่ที่ 90,072 ล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ ดำเนินมาถูกทาง แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีส่วนต่างของกำไรขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ประกอบกับ Spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลง นอกจากนี้ในปี 2567 ยังมีการรับรู้กำไรจากรายการพิเศษที่มากกว่าปี 2568 ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

โดยการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ ธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลักที่ ปตท. มีความเชี่ยวชาญ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างความสามารถการแข่งขัน อาทิ การขยายธุรกิจด้านสำรวจและผลิต โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้ขยายการสำรวจและผลิตในแหล่งใหม่ๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากทั้งแหล่งอาทิตย์ แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่ง MTJDA รวมไปถึงชนะการประมูลในโครงการ Reggane II 

ขณะเดียวกัน ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา

ด้าน ธุรกิจ Non-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) ปรับการถือหุ้น Lotus ผ่านธุรกรรมการขายหุ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว รวมทั้งปรับโครงสร้างธุรกิจ EV จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด โดยเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้

ขณะที่การดำเนินงานด้านความยั่งยืน กลุ่ม ปตท. ยึดหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างสมดุลใน 3 มิติ ได้แก่ 1. เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีการกระจายความเสี่ยง สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Security) 2. จัดหาแหล่งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ (Affordability / Competitiveness) และ 3. ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Sustainability) ดำเนินการศึกษา Eastern Thailand CCS Hub แล้วเสร็จ โดยมีการ FID โครงการ CCS ในแหล่งอาทิตย์ พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ 

ด้านธุรกิจไฮโดรเจน ศึกษาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ในการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวที่ผลิตในประเทศอินเดียสู่ประเทศไทยร่วมกับ Avaada Ventures Private Limited

อีกทั้ง การสร้างความแข็งแรงจากภายใน ผ่านโครงการสำคัญที่จะช่วยยกระดับผลการดำเนินงาน เพิ่ม EBITDA Uplift และสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท. ในทุกมิติ ประกอบด้วย 1. การบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ D1 และ Project One (P1) เพื่อยกระดับ Synergy ภายในกลุ่ม ปตท. และเตรียมความพร้อมขยายตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2. ทำเรื่อง Operational Excellence (MissionX) ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ (Lean Process) ควบคู่กับการทำ Change Management และ Best Practice Sharing เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน 3. ขับเคลื่อน Digital Transformation (Axis) โดยผลักดันให้เกิดการพัฒนา Use Cases สนับสนุนธุรกิจกลุ่ม ปตท. พร้อมทั้งพัฒนา Infrastructure และศักยภาพพนักงาน 4. Asset Monetization (A1) การบริหารสินทรัพย์เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของกลุ่ม ปตท. เพิ่ม Asset Optimization & Synergy และปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสม 5. Financial Excellence (F1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งและวินัยทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุน สอดคล้องพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ