Phones





SCN รับมือCOVID-19 พร้อมเดินหน้าทุกธุรกิจ

2020-04-20 12:27:48 386




นิวส์ คอนเน็คท์ - SCN วางแผนเข้ม สกัดโควิด-19 ลดผลกระทบต่อธุรกิจให้เดินหน้าต่อเนื่อง เผยธุรกิจในมือยังเดินหน้าฉลุย ไร้ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19


เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ทวีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายภาคธุรกิจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม


โดยบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับวิกฤติดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนในส่วนต่าง ๆ ลง และคาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะลดค่าใช้จ่ายในด้าน SG&A (ค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ) ได้เป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนที่ได้ลงทุนไปในหลายปีที่ผ่านมา อย่างธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศพม่า, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บางภาษี และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ วี.โอ.เน็ต รวมถึงธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีก่อน ยังคงเติบโตได้ตามแผน โดยไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19


ด้านธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรม NGV ในประเทศไทย ที่ภาครัฐมีการส่งเสริมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง B20 บวกกันการบริโภคที่น้อยลงจากสถานการณ์ Covid ทำให้ปริมาณการใช้ก๊าซ NGV ลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ด้วยการกำหนดแนวทางการบริการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวและทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้


สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ที่ปัจจุบันได้เริ่มเฟส 1 จำนวน 50 เมกะวัตต์ (MW) อย่างเป็นทางการไปแล้วนั้น ทางบริษัทฯมองว่าจะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯได้มีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม 10% ในช่วงปลายปี 2562 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯถือหุ้นรวมในโครงการดังกล่าวเท่ากับ 40% อีกทั้งโครงการยังได้รับผลประโยชน์จากราคาค่าแผงโซลาเซลล์ที่มีการปรับตัวลดลง ทำให้ต้นทุนในการก่อสร้างลดลงประมาณ 15-20% จากปีก่อนหน้า รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลงตามไปด้วย


ในส่วนของธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ที่บริษัทฯ เข้าไปถือหุ้นในบริษัทย่อย สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด (SAP) ยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้เดินหน้าติดตั้งแผงโซลาร์ผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟ ทั้งนี้ SAP ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและมีความต้องการในการติดตั้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้จะทยอยเปิดผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ถึง 1.7 MW จากสัญญาที่เซ็นไปแล้วคิดเป็นกำลังการผลิตรวมทั้งหมดกว่า 10 MW


อีกทั้งด้านธุรกิจยานยนต์ บริษัทฯ ยังคงมีรายได้จากสัญญารับเหมาซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 489 คัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยบริษัทฯ มองว่าการรับรู้รายได้จากส่วนงานที่ลงทุนไปแล้วทั้งสามส่วนที่กล่าวในข้างต้นจะมีส่วนช่วยอย่างมากต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews