นิวส์ คอนเน็คท์ - BGRIM เงินสดในมือ 2 หมื่นล้านบาทยังแข็งแกร่ง ดำเนินธุรกิจไม่สะดุด เดินหน้าขยายลงทุนต่อเนื่อง รับโควิด-19 กระทบเล็กน้อยในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ถูกชดเชยด้วยอุตสาหกรรมผลิตเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมพลาสติก มั่นใจรายได้ตามเป้า

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 นายนพเดช กรรณสูต ประเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทยังคงสามารถดำเนินธุรกิจและขยายการลงทุนได้ตามแผน แม้ช่วงนี้จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ มีการเจรจาธุรกิจผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุน ทั้งในรูปแบบซื้อกิจการ (M&A) และศึกษาขยายการลงทุนโครงการใหม่ โดยในปัจจุบันบริษัทเงินสดในมือราว 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอต่อการขยายการลงทุนในปีนี้

โดยการเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ขนาดกำลังการผลิต 200-250 เมกะวัตต์ในประเทศมาเลเซีย และศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มในเวียดนาม ฟิลิปินส์ เกาหลีใต้ ขนาดกำลังการผลิตรวมกว่า 300 เมกะวัตต์ ยังดำเนินการเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ในมือราว 3,424 เมกะวัตต์

ขณะที่การดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 63 ยังคงเดินหน้า COD ได้ตามเป้าหมายในปีนี้มีกำลังการผลิตรวมกว่า 104 เมกะวัตต์ที่จะ COD ในปี 63 ประกอบไปด้วย โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ที่ จ.มุกดาหาร โครงการโซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 39 เมกะวัตต์ ที่ประเทศกัมพูชา

พร้อมกันนี้ ยังมีโครงการโซลาร์รูฟท็อป รูปแบบ Private PPA รวมกำลังการผลิต 49 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโซลาร์รูฟท็อปในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัย จ.ระยอง 13 เมกะวัตต์ โซลาร์รูฟท็อปที่ฟิลิปินส์ 6 เมกะวัตต์ และโซลาร์รูฟท็อป AL Madina ประเทศโอมาน 30 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการในปี 63 นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการซื้อหุ้นบริษัท อ่างทอง เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอ่างทอง เพาเวอร์ เชื้อเพลิงพลังงานความร้อนร่วม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 123 เมกะวัตต์

ส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น BGRIM ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยในบางประเภทของกลุ่มอุตสาหกรรมที่การใช้ไฟฟ้าลดลงตามการเดินเครื่องผลิตที่ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกที่ได้ลงนามซื้อขายไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายประเภทที่ช่วยลดความเสี่ยงในการขายไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเดินหน้า COD ได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับการลงทุนซื้อกิจการ และการขยายลงทุนในทุกปีจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส1/63 คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews