Phones





ATLAS เคาะราคา IPO 3 บาท ผถห.ใหญ่ Lock Up 100%

2025-10-06 16:23:10 85



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ATLAS เคาะราคา IPO 3 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 7-10 ต.ค.68 เตรียมเข้าซื้อขายใน SET เดือน ต.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ PTG พร้อมใจล็อคอัพ 100% ตอกย้ำความเชื่อมั่น พร้อมนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจครบวงจร เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน หนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ1 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ ATLAS ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 7– 10 ต.ค. 2568 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้เดือนต.ค. นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “ATLAS” ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค
 
ทั้งนี้ ATLAS เสนอขายไอพีโอจำนวน 418.42 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 29.50% ของจํานวนหุ้นสามัญที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังจากการขายหุ้นเพิ่มทุน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 8 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง, บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส, บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ในฐานะตัวแทนจำหน่าย
 
สำหรับการกำหนดราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) ประมาณ 15 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568 เมื่อเทียบกับอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น(PE) ถัวเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจพลังงานและกลุ่มมีเดียที่เทรดอยู่ในระดับ P/E 23 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาทีน่าสนใจสำหรับนักลงทุน จึงคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
 
ด้านนายอมร พิริยะแพทย์สม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าจุดเด่น ATLAS คือการดำเนินธุรกิจ LPG แบบครบวงจร ทั้งด้านการจัดจำหน่ายก๊าซหุงต้มบรรจุถัง การบริหารสถานีบริการก๊าซ และการดำเนินงานโรงบรรจุก๊าซด้วยตัวเองทุกกระบวนการ อีกทั้งยังเป็นบริษัทค้าปลีก LPG ที่มีระบบบริหารจัดการที่ดี มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 14 % เทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่อยู่เพียง 3-5% สะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ
 
ขณะที่ในงวด 6 เดือนแรก ปี 2568 ATLAS ครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในอันดับที่ 4 ของอุตสาหกรรม LPG ของประเทศไทย ด้วยปริมาณการจำหน่ายรวม 205.6 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นสัดส่วน 11 - 14 % จากปริมาณการจำหน่ายรวมทั้งประเทศที่ 1,844.5 ล้านกิโลกรัม และครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ของกลุ่ม LPG ภาคขนส่ง (Auto LPG) ด้วยยอดขายรวม 116.3 ล้านกิโลกรัม หรือคิดเป็น 31.1% และผลงานทีมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำสถานะผู้นำในตลาดเฉพาะทางที่ยังมีศักยภาพการเติบโตอีกมากในอนาคต
 
นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS กล่าวว่า หุ้นที่ถือโดย บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นอกจากส่วนที่ติดไซเรนท์พีเรียดตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว จำนวนหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของ PTG ได้ทำสัญญา Lock-up เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อ ATLAS และทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจถึงเจตนารมณ์ที่เด่นชัดของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ว่าพร้อมจะยืนเคียงคู่ไปด้วยกัน
 
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มศักยภาพการเติบโตธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน จำหน่ายก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน ภาคการขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ผ่านการเพิ่มโรงบรรจุก๊าซ ร้านจำหน่ายก๊าซ ถังก๊าซ และสถานีบริการก๊าซ รวมทั้งลงทุนในโครงการ PT Auto Transform เพื่อเพิ่มจำนวนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจี ขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มพาณิชยกรรม รวมไปถึงการลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
 
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 5,935.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 641.65 ล้านบาท หรือ 12.12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5,294.19 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 155.70 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 14.4% โดยในไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิ 101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% เทียบไตรมาส 1 /2568 กำไรสุทธิ 54 ล้านบาท จากแรงหนุนรายได้โฆษณาอย่างมีนัยยะสำคัญ