นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTEP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63 กำไรสุทธิ 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับงบลงทุนลง 15-20% พร้อมปรับลดปริมาณการขายปิโตรเลียมลง 7% รับมือราคาน้ำมันต่ำ ไวรัสโควิด-19 หวังรักษาความแข็งแกร่งในระยะยาว

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2563 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP (ปตท.สผ.) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของบริษัทนั้นมีรายได้รวม 1,771 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 55,335 ล้านบาท ลดลงประมาณร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/62 โดยหลักมาจากปริมาณการขายเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 363,411 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเทียบกับ 395,028 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการเรียกรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการในอ่าวไทยจากผู้ซื้อที่ลดลง

นอกจากนี้ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในไตรมาสนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 44.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับ 48.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในไตรมาสก่อน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ดีในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรจากอนุพันธ์ทางการเงิน 222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาล่วงหน้า ในขณะที่สามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วยได้ที่ระดับ 31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ขณะเดียวกันบริษัทมีรายจ่ายทางภาษีเงินได้จากผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ในไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 8,612 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/62 ที่มีกำไรสุทธิ 384 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 11,620 ล้านบาท โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 981 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 38,093 ล้านบาท และมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ร้อยละ 72

นายพงศธร กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก PTTEP จึงได้ปรับลดการคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 63 เป็น 362,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลงประมาณร้อยละ 7 จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 391,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน รวมถึงปรับลดรายจ่ายการลงทุนของปี 63 ประมาณร้อยละ 15-20 จากเดิมที่ตั้งไว้ 4,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 143,012 ล้านบาท

โดยการปรับลดรายจ่ายการลงทุนได้พิจารณาตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนและเลื่อนแผนการเจาะสำรวจในบางโครงการออกไป แต่จะยังคงรายจ่ายสำหรับรักษาระดับการผลิตตามสัญญาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวมถึงยังคงรายจ่ายเพื่อพัฒนาโครงการที่พร้อมผลิตใน 3-4 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 และการเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมในแหล่งก๊าซ ลัง เลอบาห์ ในแปลงเอสเค 410บี ประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ PTTEP มีผลิตภัณฑ์หลักร้อยละ 70 เป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีการกำหนดปริมาณรับซื้อขั้นต่ำไว้แล้ว และกำหนดราคาขายในหลายโครงการกับคู่สัญญาไว้แล้ว โดยโครงสร้างราคาขายก๊าซธรรมชาติของ PTTEP ผูกกับราคาน้ำมันส่วนหนึ่งและย้อนหลังประมาณ 6-24 เดือน ส่วนของน้ำมันดิบซึ่งมีปริมาณการขายประมาณร้อยละ 30 ของปริมาณการขายทั้งหมด อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งบริษัทได้มีการทำสัญญาประกันความเสี่ยงด้านราคาในปีนี้ไว้แล้วบางส่วน