Phones





PRM รุกหนักตะวันออกกลาง คว้าลูกค้ารายใหม่เข้าพอร์ต

2025-11-24 16:06:39 72



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - PRM เดินหน้าขยายตลาดกลุ่มเรือ OSV ในตะวันออกกลาง หลังคว้าลูกค้ารายใหม่ NMDC LTS ภายใต้ยักษ์ใหญ่ NMDC แห่งกรุงอาบูดาบี เตรียมส่งมอบเรือ Crew Boat มาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน จำนวน 2 ลำ พร้อมคว้าสัญญาใหม่ระยะยาว 5 ปี สำหรับเรือ AWB ทั้ง 2 ลำ หนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง
 
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตลาดกลุ่มเรือ Offshore Support Vessel (OSV) ในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง หลังให้บริการ ADNOC เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดคว้าลูกค้ารายใหม่ NMDC LTS ภายใต้ยักษ์ใหญ่ NMDC แห่งกรุงอาบูดาบี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดลอกทางทะเล โครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง ตลอดจนการวางท่อและสายเคเบิลใต้น้ำ พร้อมส่งมอบเรือ Crew Boat มาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน จำนวน 2 ลำ
 
“การได้รับความไว้วางใจจาก NMDC ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำความสำเร็จในการรุกตลาดตะวันออกกลาง การขยายฐานลูกค้าไปยังผู้ประกอบการชั้นนำได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนความเชื่อมั่นในมาตรฐานระดับสากลของ PRM ทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมที่ทันสมัย” นางสาวสุธาสินี กล่าว
 
สำหรับเรือ Crew Boat ที่บริษัทส่งมอบเป็นรุ่น 42-metre Generation 4 Fast Crew Boats (FCBs) ที่ออกแบบร่วมกับ Strategic Marine ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือในประเทศสิงคโปร์ และ Southerly Designs ผู้เชี่ยวชาญออกแบบเรืออะลูมิเนียมความเร็วสูง ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปทรงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและเดินเรือได้จริง อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกเรือด้วย Gyro Stabilizer อุปกรณ์รักษาความสมดุลที่ช่วยการลดการโคลงเคลง เมื่อเจอสภาวะทะเลคลื่นลมแรง
 
นอกจากนี้ ด้วยความยาวเรือ 42 เมตร ทำให้สามารถรองรับบุคลากรได้สูงสุด 80 คน พร้อมยังออกแบบที่นั่งตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อความสะดวกสบาย และยังมีดาดฟ้าที่ออกแบบบรรทุกสินค้าเสริมแรงรองรับงานนอกชายฝั่ง ที่สำคัญ บริษัทยังได้คำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว จึงได้ออกแบบเรือเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการอัพเกรดระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดในอนาคตอีกด้วย
 
ขณะที่บริษัทยังได้รับสัญญาใหม่ระยะยาว 5 ปี สำหรับเรือ Accommodation Work Barges (AWB) ทั้ง 2 ลำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเภทเรือหลักในธุรกิจ OSV โดยจะให้บริการภายใต้สัญญาฉบับใหม่ต่อเนื่องในต้นปี 2569 ที่จะถึงนี้
 
“ความสำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นขยายธุรกิจ OSV และมุ่งหน้าดำเนินงานด้วยความแข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกมิติ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเติบโตในภูมิภาคนี้เท่านั้น ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จนี้ ให้เติบโตยิ่งขึ้นจากมาตรฐานและคุณภาพในการดำเนินงานของบริษัทต่อไป” นางสาวสุธาสินี กล่าว