Phones





IRPCปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน

2020-05-08 12:53:24 478




นิวส์ คอนเน็คท์ - IRPC พร้อมปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค มุ่งกลยุทธ์ Human Centric สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะผลประกอบการไตรมาส1ขาดทุน 8.9 พันล้าน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในระดับต่ำ ส่วนไตรมาส2คาดยังคงทรงตัวในระดับต่ำ


เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/63 มีผลขาดทุนสุทธิ 8,905 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งสงครามการค้าทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างรวดเร็วและวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19


โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างมากจาก 67.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงต้นไตรมาส 1/63 และลดลงมาอยู่ที่ 23.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 1/63 เป็นผลจากสภาวะอุปทานล้นตลาด เนื่องจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิต ประกอบกับการหยุดทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจและมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ของทุกประเทศ ทำให้ IRPC มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 6,811 ล้านบาท หรือ 12.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล


สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2/63 คาดว่ายังทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องจากสิ้นไตรมาส 1 ที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้ต้นทุนทางการผลิตลดลง จากการได้รับประโยชน์จากราคาประกาศของ Saudi Aramco ที่มีส่วนลด (discount) ประมาณ 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งในปัจจุบันสัดส่วนน้ำมันดิบที่ IRPC สั่งซื้อมาจาก Saudi Aramco มีประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการสั่งซื้อน้ำมันดิบทั้งหมด โดยบริษัทได้มีการการบริหารต้นทุน และประสิทธิภาพการผลิตอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน



อย่างไรก็ตามจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ โดยกำหนดมาตรการต่างๆ ที่สามารถตอบสนองต่อนโยบายรัฐ เพื่อรักษาสุขอนามัยของบุคลากรบริษัทฯ และบริหารจัดการความต่อเนื่องในธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) ด้วยความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์ เพื่อดูแลตลอดห่วงโซ่ธุรกิจให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย


ทั้งนี้ IRPC ได้จัดตั้งคณะทำงาน Crisis Management และ Planning Ahead โดยคณะทำงาน Crisis Management จะติดตามสถานการณ์ธุรกิจ พร้อมกำหนดนโยบายและตัดสินใจดำเนินการได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ โดยทำงานคู่ขนานกับคณะทำงาน Planning Ahead ที่บริหารจัดการฟื้นฟูธุรกิจหลังภาวะวิกฤต และมองหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในอนาคต


สำหรับภารกิจสำคัญเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 IRPC ได้มีการพัฒนาต่อยอดชุด PPE อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) ผลิตจากผ้าสปันบอนด์ (Polypropylene spunbond) ที่สามารถป้องกันสารคัดหลั่งและเลือดไม่ให้ซึมผ่าน ด้วยต้นทุนในการผลิตถูกกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศถึงร้อยละ 60


รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมพลาสติกคลุมเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ โดยใช้วัตถุดิบผ้ากระสอบพลาสติกผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีนเกรดพิเศษ ที่มีคุณสมบัติเหนียว แข็งแรงทนทานสูง ด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศถึงเกือบ 3 เท่าตัว จากความสำเร็จต่างๆ ดังกล่าว นำไปสู่ความร่วมมือในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ในการสร้างห้องปฏิบัติการตรวจสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการแพทย์ เพื่อยกระดับการสร้างองค์ความรู้ และการวิจัยภายในประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในประเทศทดแทนการนำเข้า


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews