Phones





PCE กางแผนธุรกิจปี 69 จับมือพันธมิตรอัพรายได้ตปท.

2025-12-12 18:07:36 85



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - PCE ประกาศแผนธุรกิจปี 69 เดินหน้าโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เฟส 3 และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์เกรดพรีเมี่ยมให้เสร็จภายในไตรมาส 3/69 พร้อมจับมือ ISF พันธมิตรจากญี่ปุ่นเพื่อขยายตลาดส่งออก เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 50% ของรายได้รวม พร้อมต่อยอดสินค้า High-Margin มั่นใจรายได้ปี 69 ทำสถิติออลไทม์ไฮ
 
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2569 บริษัทจะมีการปรับโครงสร้างช่องทางจำหน่ายเพื่อขยายฐานลูกค้าต่างประเทศให้เป็นสัดส่วน 50% ของรายได้จากการขายทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 40% โดยจะลดสัดส่วนการขายในประเทศลงเหลือ 50% จากเดิมอยู่ที่ 60% เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเชิงมูลค่าสูง
 
โดยแผนการขยายตลาดในต่างประเทศนั้น บริษัทจะร่วมมือกับ ISF บริษัทในเครือของ The Nisshin OiliO Group, Ltd ซึ่งเป็นเครือธุรกิจที่มีเครือข่ายจำหน่ายครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในกลุ่ม Specialty Fat และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ใช้เป็นวัตถุดิบต่อยอด เช่น Cocoa Butter และไขมันสำหรับอุตสาหกรรมเบเกอรี่ ช็อกโกแลต และเวชสำอาง โดยพันธมิตรรายนี้มีจุดแข็งด้านการเป็น B2B Specialty Supplier ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของบริษัทเข้าถึงตลาดเชิงอุตสาหกรรมได้รวดเร็วและมีช่องทางการจัดจำหน่ายระดับโลก
 
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (High Margin Value) ที่เป็นวัตถุดิบสามารถใช้งานได้ทั้งด้านการประกอบอาหาร เช่น ไขมันสำหรับช็อกโกแลต และสินค้าอุปโภคบริโภค หรืออุตสาหกรรม Oleochemical เช่น ส่วนผสมในเวชสำอาง สบู่ ยาสระผม เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า CPO ธรรมดา และมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการจำหน่ายสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไป
 
สำหรับตลาดในประเทศ PCE ตั้งเป้าขยายฐานสู่กลุ่ม B2C โดยมุ่งเน้นการวางจำหน่ายน้ำมันปาล์มสำหรับประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯให้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่าย พร้อมกันนี้ยังมีแผนเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ให้กับแบรนด์และร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในประเทศ เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างฐานลูกค้าปลีกที่มั่นคง
 
ในส่วนของการลงทุนโรงสกัด CPO เฟส 2 มูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท ที่สร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ จะเริ่มให้ผลเชิงพาณิชย์ในปี 2569 ซึ่งจะสนับสนุนปริมาณทะลายปาล์มที่เข้ามาในไตรมาส 2/2569 และเมื่อโรงสกัดและโรงกลั่นเฟสถัดไปเดินเครื่องได้เต็มที่ ขณะที่การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต ยังคงเดินหน้าสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เฟส 3 มูลค่าลงทุน 310 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2569 พร้อมกับสร้างโรงกลั่น CPO เพื่อผลิตสินค้า High-Margin เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม และน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2569 เช่นเดียวกัน
 
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าทั้งสองโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมต่อยอดไปยังอุตสาหกรรม Oleochemical โดยมีมูลค่าลงทุนในโรงงาน Fatty Acid 50 ล้านบาท เพื่อเจาะตลาด Consumer Product อาทิ สารลดแรงตึงผิวซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสบู่ ครีมอาบน้ำ หรือแม้แต่ผลิตวัตถุดิบสำหรับเวชสำอาง