นิวส์ คอนเน็คท์ – BANPU โชว์กำไรไตรมาส 1/63 โต 89.22% หลังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจไฟฟ้าที่มี EBITDA โต 485% ธุรกิจก๊าซรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 112 ล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ของ BANPU มีกำไรสุทธิ 1,712 ล้านบาท หรือ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้น 89.22% เทียบกับช่วงเดี่ยวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 905 ล้านบาท หรือ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ

เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BANPU ที่มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ราว 55 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 485% นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ จึงส่งผลบวกให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 112 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้ 36 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปริมาณการผลิตและขายก๊าซที่เพิม่ขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจถ่านหินมี EBITDA 77 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 29% และมี EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 89%

โดยปริมาณการขายถ่านหินเหมืองที่ประเทศอินโดนีเซียอยู่ในระดับ 5.77 ล้านตัน ลดลง 9% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนของประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับ 59.32 เหรียญสหรัฐต่อตัน ต้นทุนขายใกล้เคียงไตรมาสที่ผ่านมาคิดเป็น 40.47 เหรียญสหรัฐต่อตัน อัตรากำไรขั้นต้นยังคงรักษาระดับที่ 32%

ส่วนปริมาณการขายถ่านหินในเหมืองประเทศออสเตรเลียอยู่ในระดับ 3.09 ล้านตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% เนื่องการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่นผลมาจากแหล่ง Mandalong สามารถย้ายเครื่องจักร Longwall ได้เสร็จก่อนกำหนด และดำเนินการผลิตในพื้นที่สภาพธรณีเอื้ออำนวยมากขึ้น ขณะที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 86.13 เหรียญออสเตรเลียต่อตันด้วยต้นทุนขายเฉลี่ยที่ 78.75 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน และมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนจำนวน 16 ล้านเหรียญสหรัฐ จากความต้องการใช้ที่สูง สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews