Phones





BGRIM โชว์ผลงานไตรมาส1/63โตแรง54%

2020-05-13 09:42:03 411




นิวส์ คอนเน็คท์ - BGRIM ไตรมาส 1/63 เติบโต 54% กระแสเงินสดแข็งแกร่ง 2.1 หมื่นล้านบาท ลุยขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เล็งซื้อกิจการหลายโครงการ ยันลูกค้าอุตสาหกรรมเข้ามาเพิ่มทุกไตรมาส มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐ เน้นการลงทุนอย่างมีคุณภาพหนุนการเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน


เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63 มีรายได้จากการขายและการให้บริการที่ 11,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,158 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.0% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยมีสาเหตุหลักมาจากขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องถึง 944 เมกะวัตต์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จากสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการ ในปีที่แล้ว และการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 2 แห่งได้แก่ โครงการ SPP1 ในปี 62 และล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าอ่างทองเพาเวอร์ ขนาด 123 เมกะวัตต์ ในเดือนมีนาคม 63


ประกอบกับมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมยังคงมีความแข็งแกร่งในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยผลจากการมีสัดส่วนอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีกลุ่มลูกค้ามีการเติบโต ได้แก่ เช่น กลุ่มบรรจุภัณฑ์ โต 15.1% กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 13.2% จากลูกค้าใหม่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเพิ่มขึ้น 8.0% กลุ่มยางรถยนต์เพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการทยอยจ่ายไฟให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟใหม่รวม 26 เมกะวัตต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่อัตรากำไรก่อน ดอกเบี้ย ถาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มสู่ระดับสูงสุดที่ 29.2% จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ผลจากทยอยปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันก๊าซเป็นโครงการที่ 3 ในช่วงต้นปีนี้ และการรับรู้ผลการดำเนินงานโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามที่ให้อัตรากำไร EBITDA ที่สูง


อย่างไรก็ตาม จากที่บริษัทกู้เงินสกุลต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงในส่วนของรายได้สกุลต่างประเทศ (natural hedge) โดยในช่วงไตรมาส 1/63 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จึงเกิดรายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยน 886 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่ไม่กระทบกระแสเงินสด เป็นสาเหตุหลักทำให้กำไรสุทธิจากอยู่ที่ 159 ล้านบาท และ 81 ล้านบาทในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่


นางปรียนาถ กล่าวอีกว่า บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมีเงินสดในมือถึง 2.1 หมื่นล้านบาท มีการประเมินกระแสเงินสดอย่างละเอียดภายใต้สมมติฐานสถานการณ์ต่างๆ มั่นใจแข็งแกร่งต่อเนื่อง ไม่ส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ และแผนการลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับวงเงินสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม 4 พันล้านบาทรวมเป็น 9 พันล้านบาท พร้อมรับมือวิกฤตไวรัสโควิค – 19 มีความยืดเยื้อ พร้อมกันนี้ BGRIM ยังได้จัดตั้งทีมงานผู้รับผิดชอบเพื่อติดตามปฎิบัติการตอบสนองนโยบายภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยให้ความช่วยเหลือทั้งทางการแพทย์และสังคมรวมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท อีกทั้งมีมาตรการต่างๆเพื่อดูแลความปลอดภัยของพนักงาน ควบคู่ไปกับการรักษาระดับคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการปลดพนักงาน ด้านธุรกิจรายได้ส่วนใหญ่มาจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ไวรัสโควิค-19

สำหรับในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรม ปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยรวมคงที่จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยังมีลูกค้าใหม่ทยอยเข้ามาอีกในช่วงที่เหลือของปีรวม 30 เมกะวัตต์ตามสัญญาการซื้อขายไฟ นอกจากนี้มีการใช้แผนเชิงรุกในการลดต้นทุน คาดว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 34 ล้านบาท จากการขยายอายุการใช้งานของชิ้นส่วนอุปกรณ์บางชนิด และการประหยัดต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อปี


ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ray Power ในประเทศกัมพูชาขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำหลักชัย กำลังการผลิตติดตั้ง 13 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อวิน วินด์ฟาร์ม 1&2 กำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาส 4/63 ถึง ไตรมาส 1/64 พร้อมดำเนินการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการวิเคราะห์การลงทุนและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5 พันเมกะวัตต์ในปี 65


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews