Phones





PTTชี้ไตรมาส2เห็นกำไรสต็อกน้ำมัน

2020-05-19 11:08:53 584




นิวส์ คอนเน็คท์ – PTT ชี้ไตรมาส 2 มีโอกาสกำไรสต็อกน้ำมัน เล็งออกหุ้นกู้วงเงินเดิม 4.4 หมื่นล้านบาท ใช้ลงทุน รีไฟแนนซ์ เป็นทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ยันสถานะยังแกร่งกำเงินสด 5 หมื่นล้านบาท


เมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของ กลุ่ม ปตท.ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ค่าการกลั่นมีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีราคาผลิตภัณฑ์ยังถูกกดดันจากซัพพลายใหม่ของประเทศจีนที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น


ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากลงมาต่ำสุดที่ 23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นไตรมาส 1/63 จากราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นไตรมาส 2/63 มีแนวโน้มกำไรจากการสต็อกน้ำมันเล็กน้อย แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากปริมาณการขายที่ชะลอลงจากมากตรการล็อคดาวน์ของภาครัฐที่จะมีผลช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ซึ่งจะกระทบทั้งปริมาณการขายน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน หลังผู้ประกอบการการบิน หยุดทำการบิน อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปตท.ประเมินราคาน้ำมันดิบทั้งปี 63 จะอยู่เฉลี่ยในกรอบ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล


ส่วนแผนออกหุ้นกู้ ตามกรอบวงเงินเดิมที่เคยขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้แล้ว 44,000 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 2 ปี (2563-2564) ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสมและวงเงินในการออกหุ้นกู้ว่าจะสามารถดำเนินการในช่วงใด ซึ่งการออกหุ้นกู้ดังกล่าว จะอยู่ภายใต้ 3 วัตถุประสงค์ คือ การนำเงินที่ใช้ดำเนินการลงทุนโครงการที่อยู่ในแผน การนำเงินไปรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริหาร เพื่อเสริมสภาพคล่อง อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ปตท.ยังมีเงินสดในมือประมาณ 5 หมื่นล้านบาทยังมีสภาพคล่องสำหรับการลงทุน


ขณะเดียวกันบริษัทมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ ประมาณ 27,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในเดือน พ.ค.นี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท และในช่วง ก.ค. อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท และช่วงพ.ย.นี้ ประมาณ 22,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้า ก็มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดต้องชำระ อีกประมาณ 15,000 ล้านบาท


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews