Phones





BANPUครึ่งปีแรก62กำไรยังโตเด่นแม้ราคาถ่านหินลด

2019-08-15 10:33:29 212




นิวส์ คอนเน็คท์ - BANPU ครึ่งปีแรก กำไรยังเด่น รายได้จากการขาย 1.4 พันล้านเหรียญฯ ลุยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจถ่านหิน บริหารต้นทุน รับมือราคาถ่านหินลด พร้อมขยายลงทุนธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน


นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบ้านปูฯ ในไตรมาส 2/2562 มีรายได้จากการขายรวม 731 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,092 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) 168 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,306 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 95 ล้านบาท) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายถ่านหินในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ประกอบกับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินสกุลบาทเมื่อเทียบเงินเหรียญสหรัฐ


ขณะที่ครึ่งแรกของปี 2562 มีรายได้จากการขายรวม 1,430 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45,188 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) 399 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12,608 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,011 ล้านบาท)


สำหรับกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงานของ BANPU ทั้งถ่านหินและธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ได้เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารต้นทุนในธุรกิจถ่านหินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ขณะเดียวกัน ด้วยความเชื่อมั่นในทิศทางการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15,794 ล้านบาท) สำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิตในปี 2562-2563 โดยเน้นลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงกับแหล่งการผลิตเดิม สร้างกระแสเงินสดอยู่แล้ว มีกำไรที่รับรู้ได้ทันที ซึ่งคาดว่ากระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ได้อย่างแข็งแกร่ง


นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรก BANPU มีความคืบหน้าด้านการลงทุนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง ที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่าง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก (กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน) ตลอดจนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภายใน รวมถึงการมอบโซลูชันด้านพลังงานในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน


เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน สามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 168 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนิญถ่วน (Ninh Thuan) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินงานของซันซีป กรุ๊ป (Sunseap Group Pte. Ltd.) ผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าของบ้านปูฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวรวม 65 เมกะวัตต์


นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จีซิน (Jixin) ขนาดกำลังผลิต 25 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู (Jiangsu) สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 ทั้งนี้ บ้านปูฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการด้านการวางระบบ Solar Rooftop บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ และอาคารจอดรถ 2-3 ของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกำลังการผลิตรวม 1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปัจจุบันบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 89 เมกะวัตต์


นอกจากนี้ บริษัท Durapower Technology (Singapore) Pte. Ltd. ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (LiB) ในอุตสาหกรรมยานยนต์และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบ้านปูฯ ยังได้ขยายกำลังการผลิตของโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว (Suzhou)สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มเติมจาก 80 เมกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 380 เมกะวัตต์ชั่วโมง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปูฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด


อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบ้านปูนั้นได้ดำเนินมาตรการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดรวม 794 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 25,090 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากงวดสิ้นปี 2561 จำนวน187 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,909 ล้านบาท) หรือร้อยละ 31 ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการจ่ายเงินกู้ การจ่ายเงินปันผล และการลงทุนตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน