Phones





BANPUชะลอโครงการใหญ่ - ลดงบลงทุน20%

2020-05-25 09:27:39 506




นิวส์ คอนเน็คท์ - BANPU ปรับลดงบลงทุน 20% จากเดิม 930 ล้านเหรียญฯ ชะลอลงทุนโครงการใหญ่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ยกเว้นโครงการที่ลงทุนแล้ว 3 โครงการซื้อแหล่งก๊าซบาร์เนตต์ พลังงานลมเวียดนาม โรงไฟฟ้า SLG ชี้ช่วง 18-24 เดือน เน้นลงทุนธุรกิจก๊าซ-พลังงานสะอาด ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter หวังสะสมเงินสดในมือ รอลงทุนโครงการใหญ่หลังโควิดคลี่คลาย


เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 18-24 เดือนถึงจะกลับมาฟื้นตัว ดังนั้น การลงทุนในช่วงนี้ กลุ่ม BANPU จะเน้นการลงทุนธุรกิจก๊าซ-พลังงานสะอาด ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter พร้อมกับมุ่งเน้นลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การดำเนินการลดต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ซึ่งการลงทุนต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะต้องระมัดระวังต้นทุนทางการเงิน


นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดงบลงทุนเหลือ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลงราว 20% จากเดิมตั้งงบลงทุนไว้ 930 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการดำเนินการลงทุนในระหว่างปี 2020-2025 พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และรักษากระแสเงินลดบริษัทได้ชะลดลงทุนในโครงการใหญ่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการลงทุน เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในประเทศสหรัฐอเมริกา โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เป็นโครงการใหญ่ โดยต้องรอให้สถานการณ์กลับมาปกติก่อนถึงจะพิจารณาการลงทุนในโครงการใหญ่ ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันยังแข็งแกร่ง โดยมียอดเงินคงเหลือราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐมีศักยภาพเพียงพอต่อการลงทุนในอนาคต

อย่างไรก็ตาม โครงการใหญ่ที่ได้ดำเนินการลงทุนไปแล้วนั้น จะยังคงดำเนินการลงทุนตามแผน ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินซานซีลู่กวง (SLG) ในประเทศจีน ขนาดกำลังการผลิต 396 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4/63 โรงไฟฟ้าพลังงานลม ระยะที่ 1 ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ คาดว่า COD ไตรมาส 4/63 รวมถึงการเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) สหรัฐอเมริกา



ทั้งนี้ การดำเนินการลงทุนในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้เงินลงทุนซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ราว 500 ล้านเหรียญสหรัฐจากมูลค่ารวม 570 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งก่อนหน้าได้ทยอยชำระไปแล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเดือน เม.ย.63 และ 70 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง ธ.ค. 62 ดังนั้น ยังเหลืออีก 400 ล้านเหรียญสหรัฐคาดว่าจะดำเนินการชำระแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 63 โดยปัจจุบันได้รับการอนุมัติเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งในไทยและต่างประเทศแล้ว


ดังนั้น หากซื้อแหล่งก๊าซบาร์เนตต์แล้วเสร็จจะส่งผลให้ BANPU มีแหล่งผลิตก๊าซฯ ที่สหรัฐฯ 2 แหล่ง รวมแหล่ง Marcellus จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ราคาขายก๊าซฯ ในปัจจุบันอยู่ในระดับ 1.8-2.0 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ส่วนราคาขายล่วงหน้าตามราคาตลาดโลกอยู่ในระดับ 3 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู โดยในอีก 4 เดือนข้างหน้าจะเข้าสู่ฤดูหนาวของสหรัฐฯ จะส่งผลให้มีความต้องการใช้ก๊าซฯ เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ คลี่คลาย เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความต้องการใช้พลังงานก็จะมากขึ้นด้วย


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews