นิวส์ คอนเน็คท์ - “คมนาคม” ไฟเขียวให้ AOT จัดทำแผนเช่าบริหารสนามบิน อุดรฯ บุรีรัมย์ กระบี่ ของกรมท่าอากาศยาน เร่งเคาะค่าเช่า-สัดส่วนการแบ่งผลตอบแทน พร้อมพ่วงด้วยแผนพัฒนาสนามบินให้ชัดเจน หวังชง ครม.ก่อน ก.ย.63

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT บริหารจัดการสนามบินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. 63 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมเห็นชอบรูปแบบการให้ AOT เช่าบริหารสนามบินของ ทย. เบื้องต้นเป็นรูปแบบที่ดำเนินการได้ไม่ผิดกฎหมาย โดยมอบให้ ทย., AOT และกรมธนารักษ์ หารือรายละเอียดเรื่องค่าเช่าบริหาร รวมถึงสัดส่วนการจัดสรรเงินเข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน และกรมธนารักษ์ให้ชัดเจน

เบื้องต้น นั้น AOT มีความสนใจเช่าบริหารสนามบินของ ทย.หลายแห่งด้วยกัน ดังนั้น ต้องให้ AOT กับ ทย.ไปเจรจากันอีกทีว่าจะพิจารณาเช่าสนามบินแห่งใดบ้าง ซึ่งสนามบินของ ทย.มีหลายระดับ แต่ละระดับมีค่าใช้จ่าย และรายได้ที่แตกต่างกัน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ให้เขียนแผนการพัฒนาสนามบินที่ชัดเจนมานำเสนออีกรอบ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบให้กรมป่าไม้ไปตรวจสอบว่า การให้เช่าบริหารสนามบินที่ AOT สนใจนั้น เช่น กระบี่ บุรีรัมย์ ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนเป็นของกรมป่าไม้ โดยเดิมอนุญาตให้ ทย.ใช้ประโยชน์ในการเป็นสนามบิน หากเปลี่ยนให้ AOT เช่า จะขัดต่อกฎหมายของกรมป่าไม้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องห้ามผิดกฎหมาย แม้จะแค่ตารางเมตรเดียว อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ หากหารือแล้วสรุปแผนที่ชัดเจนมาเสนอที่ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเดือน ก.ย.63 พิจารณาเห็นชอบต่อไป

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ในเบื้องต้น AOT เสนอที่จะบริหารสนามบิน อุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ โดยที่ประชุมคณะกรรมการก็เห็นชอบแนวทางเช่าบริหารสนามบินดังกล่าว เพียงแต่ให้พิจารณารายละเอียดรูปแบบการกำหนดการันตีผลตอบแทนให้กับ ทย. รวมถึงแผนพัฒนาท่าอากาศยานของแต่ละจังหวัดที่สนใจเช่าบริหารให้ชัดเจนก่อน โดยมั่นใจว่าจะสรุปแผนพร้อมนำเสนอได้ทันก่อน ก.ย.63 แน่นอน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com

หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews