Phones





GEP เตรียมแผนเข้าระดมทุนในตลท.

2020-06-05 14:37:07 703




นิวส์ คอนเน็คท์ - GEP เตรียมแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่งตั้ง "คันทรี่ กรุ๊ป" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หวังนำเงินขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าในอนาคต


เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 นายออง ทีฮา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Green Earth Power(Thailand) Company Limited (กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด) หรือ GEP เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ เช่น แสงอาทิตย์และลม จำหน่ายให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีความร่วมมือของผู้ลงทุนหลักคือ บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) บจก.อีซีเอฟ พาวเวอร์ ในฐานะบริษัทย่อยของ บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META) และบริษัท Noble Planet PTE. Ltd. (NP) โดย GEP ได้เริ่มกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 215,755,800.00 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,157,558.00 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท


สำหรับโครงการปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกะวัตต์ ณ เมืองมินบู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมา เพื่อพัฒนาและดำเนินงานแบบ BOT (Built-Operate-Transfer) ระยะเวลาสัญญา 30 ปี ด้วยอัตรารับซื้อค่าไฟฟ้า 0.1275 USD / KWh แบ่งเป็นระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 4 เฟส โดย 3 เฟสแรกมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่เฟสละ 50 MW เฟสสุดท้าย 70 MW ขนาดพื้นที่รวมโครงการ 836 เอเคอร์ หรือเท่ากับ 2,115 ไร่ ได้รับสิทธิเช่าพื้นที่จากรัฐบาลและบริษัทเอกชนในเมียนมา เมื่อมีการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว จะขายให้กับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) ภายใต้กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน รัฐบาลเมียนมา


“ภาพรวมของอุตสาหกรรมพลังงาน มีความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ อาทิ เมียนมา โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 350,000,000 kWh/ปี รองรับการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 200,000 ครัวเรือน สอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น อีกทั้งการเข้าถึงการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในเมียนมามีเพียงแค่ 50% ในช่วงปี 2562 และตั้งเป้าการเข้าถึงไฟฟ้า 100% ภายในปี 2573 ปัจจุบันโรงไฟฟ้าในเมียนมา ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์แล้ว 5,642 MW และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 4,940 MW รัฐบาลยังมีแผนการพัฒนาขยายสายส่งกระแสไฟฟ้าเพิ่มอีกรวมกว่า 5,302 ไมล์ทั่วประเทศเมียนมา" นายออง ทีฮา กล่าว


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการมุ่งพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูทั้ง 4 เฟสให้สำเร็จลุล่วง และพัฒนาโครงการพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนโครงการอื่น โดยมีเป้าหมายหลักคือเมียนมา ตลอดจนริเริ่มโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ประเทศอื่นในภูมิภาคด้วย โดยผลการดำเนินงานของบริษัทล่าสุดในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 มีกำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์เท่ากับ 88.58 ล้านบาท บริษัทเริ่มมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับเฟสที่ 1 ขนาด 50 MW ที่แล้วเสร็จ นับตั้งแต่เดือน ก.ย.2562 ที่ผ่านมา

บริษัทฯ จึงมีแผนเตรียมตัวสำหรับการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในขยายธุรกิจและเป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ตลอดจนพัฒนาระบบบริหารจัดการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จของพันธกิจที่ตั้งไว้คือ การเป็นผู้นำทางความคิดที่จะลดการปล่อยมลพิษเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยแต่งตั้ง บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน



ด้าน ดร.วีรพัฒน์ เพชรคุปต์ กรรมการบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า GEP มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ให้มีความเหมาะสมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และอยู่ในระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งและระดมทุนได้เร็วๆ นี้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews