นิวส์ คอนเน็คท์ - PTT มั่นใจครึ่งปีหลัง 62 ผลประกอบดีกว่าครึ่งปีแรกรับปัจจัยหนุนจาก PTTEP ปริมาณขายปิโตรเลียมพุ่ง ฉวยจังหวะดอกเบี้ยต่ำ - เงินบาทแข็ง เร่งลงทุน 3 หมื่นล้านบาท หวังไม่เกินไตรมาส 4 รัฐไฟเขียวแหลมฉบัง เฟส 3 และมาบตาพุด เฟส 3

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 62 มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก 62 ที่มีกำไรสุทธิ 55,250 ล้านบาท โดยจะได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจปิโตรเลียมของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่คาดว่าจะมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากการลงทุนซื้อกิจการและซื้อสัดส่วนหุ้นเพิ่มเติมในแหล่งปิโตรเลียม เช่น แหล่งบงกช ในอ่าวไทย แหล่งเมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในมาเลเซีย

ขณะเดียวกัน GRM ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าปริมาณการผลิตจะทรงตัว ส่วนสเปรดราคาปิโตรเคมีจะฟื้นตัวดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ ส่วนราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะอยู่ที่ 65-68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 62 ยอมรับว่า กำไรมีแนวโน้มต่ำกว่าปี 61 ที่มีกำไรกว่า 1.19 แสนล้านบาท แต่จะไม่ต่ำเท่ากับปี 2558 ที่มีกำไรต่ำสุดที่ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกลุ่ม ปตท.มีการปรับพอร์ตการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาให้มีความสมดุลมากขึ้น เพื่อรับมือกับระดับราคาน้ำมันดิบที่มีความผันผวน หรือมีสัดส่วนแต่ละธุรกิจเฉลี่ยราว 20-25% ทั้งพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจค้า เป็นต้นโดยปีนี้มั่นใจว่าจะไม่มีด้อยค่าสินทรัพย์

นายชาญศิลป์ กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุน 2 โครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่า ยังคาดหวังว่าทั้งโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะได้รับการอนุมัติจากภาครัฐไม่เกินไตรมาส 4 ปีนี้ และจะสามารถเริ่มการลงทุนได้ในปี 2563 ต่อไป