Phones





“สมคิด”บี้กระทรวงพลังงานเร่งรัดลงทุน

2020-06-25 15:58:17 420




นิวส์ คอนเน็คท์ – “สมคิด” เร่งกระทรวงพลังงานลงทุนหลังโควิดคลี่คลาย วางกรอบการลงทุนปี 63-65 คาดใช้วงเงินกว่า 1.1 ล้านล้านบาท หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว พร้อมช่วยลดรายจ่ายประชาชน ลั่นวันที่ 1 ก.ค. เปิดยื่นโรงไฟฟ้าชุมชนแน่นอน


เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 253 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายในงานประชุมมอบนโยบาย “พลังงานสร้างชาติ” กับกระทรวงพลังงานและหน่วยงานภายใต้สังกัด ว่า ตนต้องการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัด เร่งดำเนินการลงทุนในโครงการต่างๆ ให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการตระตุ้นเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะแผนการลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยให้เร่งลงทุนโครงการของปี 63 ให้เป็นไปตามแผน และโครงการที่มีแผนจะดำเนินการในปี 64 ก็ให้เร่งโครงการให้เร็วขึ้นโดยนำงบลงทุนบางส่วนมาลงทุนในปี 63 แทน

ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือกระทรวงพลังงานและ ปตท. หามาตรลดค่าใช้จ่ายประชาชน รวมทั้งกระทรวงพลังงานจับมือกับ ปตท.และกองทุนหมู่บ้าน พิจารณาการลงทุนที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยวชนบท เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พานักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวพื้นที่ชนบทด้วย


ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเตรียมแผนงานด้านพลังงานเพื่อลดค่าครองชีพและสร้างรายได้ให้กับประชาชนหลังสถานการณ์เชื้อโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ภายใต้นโยบายพลังงานสร้างชาติ นั้น คาดว่าจะมีวงเงินลงทุนรวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาทในช่วงปี 2563-2565


โดยมีสาระสำคัญที่จะดำเนินการ 3 ด้าน 1.ลดรายจ่ายแก่ประชาชนช่วงโควิด-19 รวมกว่า 40,500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาและดำเนินการต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี ผ่านมาตรการช่วยเหลือสำคัญ เช่น ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและภาคธุรกิจด้วยการบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากการนำเข้า Spot LNG การยกเว้นเก็บอัตราค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ (Minimum charge) ถึงเดือน ก.ย.63 การตรึงราคาแก๊สหุงต้มถึงเดือน ก.ย. 63 และจะพิจารณาขยายไปถึง ธ.ค. 63 การช่วยเหลือส่วนต่างราคา NGV สำหรับรถสาธารณะ โดย ปตท. ช่วยเหลือส่วนต่างราคาจนถึง ก.ค. 63 การจัดโครงการพลังงานร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 แจกแอลกอฮอล์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศกว่า 2 ล้านลิตร การลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันลง 50 สต.ต่อลิตร และลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นลง 50 สต.ต่อลิตร


2. เร่งรัดการลงทุนด้านพลังงาน รวมกว่า 200,000 ล้านบาท ในปี 63 สร้างการจ้างงานกว่า 10,000 คน โดยในปี 63 จะมีการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ เริ่มดำเนินการ LNG Hub เริ่มการลงทุนพัฒนา Grid Modernization และศึกษาความเป็นไปได้ของ Grid Connectivity กับประเทศเพื่อนบ้าน การรื้อถอนแท่นปิโตรเลียม และเร่ง LNG receiving Terminal

3. กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูหลังโควิด-19 รวมกว่า 30,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้ชุมชน เกิดการจ้างงานกว่า 8,000 คน ซึ่งต่อจากนี้ กฟผ. จะกระตุ้นให้เกิดการค้าผ่านตลาดนัดออนไลน์ชุมชนโรงไฟฟ้าและท่องเที่ยวเขื่อนทั่วไทย และ ปตท. จะจัด Living Community Market Place และเที่ยวทั่วทิศกระตุ้นเศรษฐกิจกับ Blue card พร้อมทั้ง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีแผนที่จะขยายสายส่งไฟฟ้าเพื่อผันแม่น้ำยวมสู่อ่างเก็บน้ำภูมิพลเพื่อชลประทาน และยังช่วยลดปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นได้ด้วย รวมไปถึงการพิจารณาหาแนวทางการนำไฟฟ้าส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ


ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์นั้น จะเป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นกระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการตามแผน โดยในเบื้องต้นจะเปิดให้เอกชนสมัครเข้าโครงการเร่งด่วน (Quick Win ) 100 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63 และประกาศรายชื่อ ผู้ได้รับการคัดเลือกกลางเดือน ส.ค. ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในเดือน พ.ย-ธ.ค. และเริ่มลงทุนได้ต้นปี 64 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนประเภททั่วไป 600 เมกะวัตต์ คาดจะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการเดือน ต.ค.-ธ.ค. นี้ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชนในช่วงระหว่างปี 63-65 จะมีเม็ดเงินลงทุนและรายได้รวม 41,900 ล้านบาท


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews