นิวส์ คอนเน็คท์ - RATCH เล็งตอกเสาเข็มโรงไฟฟ้าหินกอง 1,400 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินลงทุน 700 ล้านเหรียญ ทดแทนโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ หลังดำเนินการมา 20 ปีเสริมความมั่นคงภาคตะวันตก ควบคู่ดูแลชุมชน

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ในปี 64 บริษัทเตรียมลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง กำลังการผลิตตามสัญญารวม 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ หรือ IPP ที่จังหวัดราชบุรี เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมไตรเอนเนอจี้ หลังสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ครบอายุในวันที่ 30 มิ.ย.63 หลังจากดำเนินการเดินเครื่องเป็นระยะเวลา 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 43 ด้วยกำลังการผลิตตามสัญญา 700 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติจากพม่าเป็นเชื้อเพลิง

โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง แบ่งเป็น 2 โครงการขนาดกำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ ก่อนหน้านั้นทางผู้บริหาร RATCH ประเมินเงินลงทุน 5 แสนเหรียญต่อเมกะวัตต์ หรือคิดเป็นเงินลงทุนรวมราว 700 ล้านเหรียญ โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 67 และปี 68 ตามลำดับ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ให้กับกฟผ. 25 ปี

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมไตรเอนเนอจี้ ขนาดกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ที่หมดอายุสัญญาลงไปนั้น บริษัทได้มอบหมายให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจำหน่ายทรัพย์สินและรื้อถอนโรงไฟฟ้า ซึ่งจะต้องสอดรับกับแผนการใช้พื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง ขั้นตอนการรื้อถอนโรงไฟฟ้าคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 64

อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมไตรเอนเนอจี้ได้นำส่งเงินกองทุนอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 30-40 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า อีกทั้งยังได้นำส่งภาษีท้องถิ่นเฉลี่ยปีละ 1-2 ล้านบาท อีกด้วย ดังนั้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกองที่จะสร้างขึ้นมาทดแทนนั้นบริษัทมั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนเป็นอย่างดี

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews