นิวส์ คอนเน็คท์ - EPG มั่นใจผลงานไตรมาส 1/63 (เม.ย.-มิ.ย.63) ยังเป็นบวก แม้ธุรกิจ AEROKLAS รับผลกระทบจากยอดผลิตรถยนต์ลดลง แต่มียอดขายธุรกิจ EPP เข้ามาทดแทน ขณะที่ยอดขายปี 63/64 อยู่ที่ 9 พันล้านบาท พร้อมรุกขยายธุรกิจหน้ากากอเนกประสงค์รองรับ New Normal

เมื่อเร็วๆ นี้ นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสไตรมาส 1 งวดปี 63/64 (เม.ย.-มิ.ย.63) มั่นใจว่าจะมีผลงานออกมาเป็นบวก แม้ว่าธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS ได้รับผลกระทบจากยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถูกชดเชยด้วยยอดขายธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเข้ามาทดแทน

“กลุ่มธุรกิจออโต้ได้รับผลกระทบในช่วงเดือนเมษยน ที่ผ่านมา แต่เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ขณะที่ธุรกิจฉนวนกันความร้อนและเย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX และ EPP ยอดขายไม่ได้ปรับตัวลดลง ดังนั้นภาพรวมในไตรมาส 1 จึงมั่นใจว่าจะมีกำไรอย่างแน่นอน”

สำหรับภาพรวมรายได้ปี 63/64 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 9,000 ล้านบาท ลดลงประมาร 12% เทียบกับปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้ยังคงมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ AEROFLEX คาดว่ายอดขายปีนี้จะทรงตัวจากปีก่อน ขณะที่ AEROKLAS คาดว่าจะติดลบ 25-27% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ EPP คาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อน อย่างไรก็ตามภายหลังคลายล็อกดาวน์ คงต้องใช้เวลาสักระยะ หลังจากนั้นเชื่อว่ากำลังซื้อจะเริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้บริษัทฯยังคงตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 28-30%

พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนใหม่ และซื้อกิจการ โดยแผนการลงทุน 3 ปีนั้นบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 589 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปี 63/64 บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ 390 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการขยายโรงงาน AEROFLEX เฟสที่ 2 ในประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังการผลิต 8,000 ตันต่อปี คาดแล้วเสร็จต้นปี 65 รวมทั้งการปรับปรุงเครื่องจักรเก่าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นการร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท Farplas Otomotiv A.S. ประเทศตุรกี จัดตั้ง บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด โดย EPG ถือหุ้นในสัดส่วน 51% Farplas Otomotiv A.S. ถือหุ้น 49% เพื่อดำเนินธุรกิจประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ทุนจดทะเบียนราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 65 ส่วนในปี64/65 คาดใช้เงินลงทุนราว 124 ล้านบาท และปี 65/66 คาดใช้เงินลงทุนราว 75 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ร่วมงบลงทุนสำหรับเข้าซื้อกิจการ(M&A) อีก 300 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนขยายโรงงานในประเทศไทย AEROFLEX เฟสที่ 5 กำลังการผลิต 6,000 ตันต่อปี ที่เริ่มเดินเครื่องตั้งแต่เดือน มี.ค.63 ผลิตสินค้าประเภทฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา (AERO-ROOF) และกลุ่มฉนวนยางท่อ ซึ่งจะสามารถขยายตลาดไปทั่วทวีปเอเชียทุกภูมิภาค

นอกจากนี้ ได้พัฒนาสินค้าใหม่หลายประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้วัตถุดิบประเภท Bio plastic และบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษเพื่อสามารถให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร รวมถึงได้คิดค้นสินค้านวัตกรรม หน้ากากอเนกประสงค์ EP-Kare เพื่อใช้แก้ปัญหาในช่วงที่หน้ากากอนามัยขาดแคลน โดยบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาหน้ากากอเนกประสงค์ EP-Kare ในเฟสต่อไปให้สามารถผลิตหน้ากาก N95 สำหรับใช้ในวงการแพทย์ และอาจจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่ไปยังกลุ่ม Health care ในอนาคต

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews