นิวส์ คอนเน็คท์ – BCPG รุกลงทุนผลิตไฟฟ้าในประเทศลาว มองโอกาสลงทุนกว่า 2,500 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าป้อนเวียดนาม เล็งซื้อกิจการในปีนี้เพิ่มอีก 1 โครงการ ขยายลงทุนในญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย วางเป้าปี 68 มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,200 เมกะวัตต์เทียบเท่าโซลาร์เซลล์ ขณะที่ผลประกอบปีนี้มั่นใจ EBITDA โต20%

เมื่อเร็วๆ นี้ นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 63 เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มี EBITDA อยู่ในระดับ 2.58 พันล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้ผลการดำเนินของโครงการพลังน้ำในลาวเหนือรวมกำลังการผลิต 114 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการ Nam San 3A ขนาด 69 เมกะวัตต์ที่เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือน ก.ย.62 และ Nam San 3B ขนาด 45 เมกะวัตต์ ที่เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือน ก.พ. 63 ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) และขายไฟฟ้าในประเทศลาว

ขณะที่ในปี 65 จะเริ่มขายไฟฟ้าให้กับประเทศเวียดนาม โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสายส่ง 230 กิโลโวลต์ (kV) โดยศักยภาพสายส่งดังกล่าวเพียงพอที่จะรองรับการส่งไฟฟ้าได้ถึง 500 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทมองโอกาสที่จะก่อสร้างโซลาร์ฟาร์ม 100-200 เมกะวัตต์ทางตอนเหนือของลาว คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 2 ปี และอาจจะมีโครงการพลังน้ำขนาดเล็กอื่น ๆ ในบริเวณทางตอนเหนือที่จะมาใช้สายส่งเพื่อส่งไฟฟ้าไปยังเวียดนามด้วย

นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ที่อยู่ทางลาวใต้ โดยที่บริษัทร่วมทุน 45% กับพันธมิตร ทำให้มีกำลังการผลิตตามสัดส่วน 270 เมกะวัตต์ แต่ในอนาคตคาดว่าการถือหุ้นจะเพิ่มเป็นระดับ 50% โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับเวียดนาม คาดว่าจะลงนามได้ใน 2-3 เดือนข้างหน้าหรือไม่เกินสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งจะสร้างสายส่งขนาด 500 kV ไปยังเวียดนาม ซึ่งเพียงพอรองรับการส่งไฟฟ้าได้ถึง 2,000 เมกะวัตต์ ทำให้มีโอกาสที่บริษัทอาจจะลงทุนโครงการอื่น ๆ เพิ่มในพื้นที่ดังกล่าว หรืออาจมีโครงการของรายอื่นเข้ามาใช้บริการสายส่งดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตามแผนขยายการลงทุนผลิตไฟฟ้าในประเทศลาวเพื่อขายไฟฟ้าให้กับประเทศเวียดนามนั้นรัฐบาลทั้งสองประเทศมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (MOU) จากลาวเหนือและลาวใต้รวมกัน 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่งในเบื้องต้น BCPG มองว่ามีศักยภาพและโอกาสในการลงทั้งลาวเหนือลาวใต้รวมกันได้สูงถึง 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งการขยายลงทุนดังกล่าวจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือจนถึงปี 68 ที่วางเป้าหมาย COD โรงไฟฟ้าในมือครบ 841.9 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ที่ระดับ 2,200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ COD แล้ว 451.8 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ 1,450 เมกะวัตต์ จากการลงทุนใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

พร้อมกันนี้บริษัทยังมีโอกาสปิดดีลการซื้อกิจการ (M&A) มากกว่า 1 โครงการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว โดยเฉพาะโครงการโซลาร์ฟาร์เก่า เพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอีกเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ในระดับ 10% ช่วยหนุนผลงานปีนี้เติบโต

ส่วนการลงทุนในประเทศญี่ปุ่นนั้นปัจจุบันมีการลงทุนในโครงโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 89.7 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ COD แล้ว 14.7 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนา 75 เมกะวัตต์ รวม 3 โครงการ คาดว่าจะ COD ได้ในปี 64 ส่วนในฟิลิปปินส์มีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนที่ COD แล้วรวม 14.4 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 5.6 เมกะวัตต์ ขณะที่ในประเทศอินโดนีเซีย เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนที่ COD แล้วรวม 157.5 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเตรียมสรุปเพื่อพัฒนาเฟส 3-4 อีก 24 เมกะวัตต์

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews