Phones





EA หั่นเป้ารายได้เหลือ1.5หมื่นล้านบาท

2020-08-04 17:47:56 259




นิวส์ คอนเน็คท์ – EA เล็งปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.5 หมื่นล้านบาท จากเป้าเดิม 2.4 หมื่นล้านบาท หลังจากโควิด-19 ทำยอดขายไบโอดีเซลลด ขณะที่กำไรคาดใกล้เคียงกับปี 62 หลังรับรู้รายได้พลังงานลมหนุมานเต็มปี ลุ้นชิงโซลาร์ฟาร์มเมียนมา 100 เมกะวัตต์ รู้ผล ก.ย.นี้


เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ารายได้ปี 63 ลงเหลือ 15,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 24,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียง หรืออาจจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไร 6,081 ล้านบาท และมีรายได้รวม 14,954 ล้านบาท

ทั้งนี้ การปรับเป้ารายได้ เนื่องจากแผนการขายรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “MINE SPA1” จำนวน 5,000 คัน ที่เดิมจะดำเนินการผลิตและทยอยส่งมอบในปีนี้ ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 64 หลังเจอผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้รายได้ในส่วนนี้หายไปประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล ก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน ทำให้ยอดขายลดลงจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ลดลง


อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการยังถูกชดเชยด้วยการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน ขนาด 260 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชัยภูมิ ที่เริ่มทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปีก่อน และจะเริ่มรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะหรือ PCM (Phase Change Material) ที่จะเริ่มผลิตส่งออกได้ปลายปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์ PCM จะส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด และยังมองหาโอกาสในการเจาะกลุ่มตลาดเครื่องนุ่งห่มอีกในอนาคต

ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้น ล่าสุดได้ร่วมลงนามพันธมิตร 3 ราย (ผู้ร่วมพัฒนา) ได้แก่ (1) Chaleun Sekong Energy Company Limited, สปป. ลาว, (2) Vega Digital Company Limited, ประเทศไทย และ (3) PSL Service Sole company Limited, ร่วมลงนามกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติของ สปป.ลาว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) Saravan Downsteam Hydropower Project และ (2) Phamong Hydropower Project รวมกำลังการผลิตราว 3,000 เมกะวัตต์ เพื่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับประเทศไทย และประเทศเวียดนาม ทั้งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาคาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี


นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอผลประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์ม 4 โครงการในประเทศเมียนมา รวมกำลังการผลิตกว่า 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนของไทย คงต้องรอนโยบายรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ ว่าจะดำเนินการสานต่อนโยบายอย่างไร


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews