Phones





IRPC ไตรมาส2กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น27%

2020-08-11 17:54:36 355



นิวส์ คอนเน็คท์ - IRPC ไตรมาส 2/63 กำไรขั้นต้นเติบโต 27% ต้นทุนน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ขณะที่กลุ่มบรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปรับตัวดีขึ้น ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 63 มั่นใจฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมงัด 3 กลยุทธ์รับมือโควิด ความผันผวนราคาน้ำมัน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ได้ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนและก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสภายใต้วิกฤติจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งต้นทุนในการซื้อน้ำมันดิบ (Crude Premium) ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 ของ IRPC ปรับตัวดีขึ้น โดยมีกำไรขั้นต้นจากการผลิต ตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 4,669 ล้านบาท (8.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 27%

โดยกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นนั้นผลมาจากต้นทุน crude premium ที่ปรับตัวลดลงจากสงครามราคาน้ำมันส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลคปรับตัวลดลง ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันจากความต้องการที่ปรับตัวลดลง จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ก็ตาม

นอกจากนี้ IRPC มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 89 ล้านบาท หรือ 0.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ IRPC มีกำไรจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 4,758 ล้านบาท หรือ 8.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาสก่อนที่มีผลขาดทุนของ Accounting GIM จำนวน 3,146 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 มีผลขาดทุนสุทธิ 410 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/63 ถึง 8,494 ล้านบาท


พร้อมกันนี้เพื่อรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากสถานการณ์โควิด - 19 และสงครามราคาน้ำมันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รักษาความสามารถในการแข่งขันและความสามารถในการทำกำไรผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. Maintain Strong Market Position สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ด้วยการขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ ควบคู่ไปกับการเสาะหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี นอกจากการติดตามสินค้าคงคลังของลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเข้าถึงและรู้ถึงความต้องการของลูกค้าแล้ว IRPC ยังมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มที่ตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) และ Mega trend โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยรูปแบบและวิธีการทำงานร่วมกันระหว่างลูกค้า ฝ่ายการตลาด และนักวิจัยของ IRPC เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการขายผ่าน E - Commerce


กลยุทธ์ที่ 2. CAPEX & OPEX Reduction จัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุนและปรับลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน และ 3. โครงการ Strengthen IRPC บริหารจัดการสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น การเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในช่วงราคาต่ำ (Strategic Crude) เพิ่มช่องทางจำหน่ายน้ำมันทั่วประเทศผ่านระบบท่อ ขุดลอกร่องทางเดินเรือรองรับเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันดิบต่อหน่วย พร้อมทั้งนำระบบดิจิทัลมาใช้ทั่วทั้งองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว


ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในครึ่งปีหลัง 63 ความต้องการผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ประมาณ 40 – 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งบริษัทอาจได้รับประโยชน์จาก Stock gain และจากปริมาณความต้องการของตลาดจะปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล๊อคดาวน์ของหลายประเทศ ที่ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews